Chronograph watch นาฬิกาเพื่อการแข่งขันที่ได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่อดีต นาฬิกาไม่ได้มีหน้าแค่บอกเวลาเท่านั้น แต่ระบบนาฬิกายังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย เช่น ฟังก์ชันบอกวัน เดือน ปี หรือแสดงช่วงข้างขึ้นข้างแรม นาฬิกาโครโนกราฟเอง ก็เป็นนาฬิกาที่ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อบอกเวลา แต่ยังสามารถจับเวลาได้ด้วย
โดยฟังก์ชันการจับเวลานี้ในนาฬิกาโครโนกราฟนี้ ได้รับการคิดค้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 มีจุดประสงค์เพื่อจับเวลาในการแข่งขันม้า จนกระทั่งเป็นที่แพร่หลายไปถึงแวดวงกีฬาอื่นๆ อย่าง กีฬาแข่งรถในปัจจุบัน
บทความนี้จะพามาทำความรู้จักว่านาฬิกาโครโนกราฟคืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักนาฬิกา รวมถึงขั้นตอนการใช้งานและข้อควรรู้ที่น่าสนใจของนาฬิกาประเภทนี้กัน
นาฬิกาโครโนกราฟได้รับการคิดค้นจาก Louis Moinet ในปี 1816 ผู้ที่ประดิษฐ์นาฬิกาชนิดนี้ขึ้นเพื่อใช้จับเวลาและการเคลื่อนที่ของดวงดาว โดยคำว่า โครโนกราฟ หรือ Chronograph คือ คำที่มาจาก โครโนส (Chronos) แปลว่า ‘เวลา’ และกราโฟ (Grapho) แปลว่า ‘การเขียน’ เมื่อนำมารวมกันจึงสื่อถึงสิ่งที่ใช้บอกเวลาอย่างแม่นยำ
โดยนาฬิกาในสมัยก่อนนั้นมักจะอยู่ในรูปแบบของนาฬิกาพกก่อนจะพัฒนามาเป็นนาฬิกาข้อมือให้ใช้งานได้สะดวก จากนั้นจึงพัฒนาส่วนหน้าจอแสดงผลการใช้งานและคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างฟังก์ชันจับเวลาเป็นลำดับต่อมา
สำหรับนาฬิกาโครโนกราฟแล้ว ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบที่เหมือนกันหลักๆ คือ หน้าจอแสดงผลของช่วงเวลาและปุ่มด้านข้างเพื่อกำหนดการใช้งานและตั้งเวลา ซึ่งมีดังนี้
แผนหน้าปัดเวลาขนาดย่อย (Sub-dial) : หน้าจอแสดงผลที่ใช้บอกเวลา โดยแผงหน้าปัดจะแบ่งออกเป็น 3 วงใหญ่ๆ คือ วงสำหรับบอกชั่วโมง นาที และวินาที
ปุ่ม Pusher ด้านบน: เป็นปุ่มสำหรับนาฬิกาโครโนกราฟซึ่งอยู่ด้านบนของเม็ดมะยม ใช้การกดเพื่อเริ่มจับเวลาหรือเริ่มต้นรีเซตเวลาใหม่ขึ้น
ปุ่ม Pusher ด้านล่าง: เป็นปุ่มกดนาฬิกาที่อยู่ด้านล่างถัดจากเม็ดมะยม ใช้เพื่อหยุดเวลาตามที่ต้องการ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะสามารถใช้ได้เมื่อมีการกดปุ่มเริ่มจับเวลาแล้วเท่านั้น
Chronograph watch คือ นาฬิกาที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อจับเวลาโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ในนาฬิกาโครโนกราฟบางเรือนก็มีการใส่ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่มีความโดดเด่นเพิ่มเติมไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
จับเวลา : เรียกได้ว่าเป็นคุณสมบัติหลักของนาฬิกาชนิดนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะช่วยให้รับรู้ระยะเวลาที่ใช้ไปอย่างแม่นยำ
บอกวัน เดือน ปี หรือเวลา : ในนาฬิกาบางเรือนนั้น ไม่ได้บอกแค่เวลาได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถบอกวันที่ได้ด้วย ซึ่งนาฬิกาโครโนกราฟที่มีลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะมีกลไกการทำงานสลับซับซ้อน เช่น นาฬิกา Swiss made ที่สามารถสร้างนาฬิกาที่มีฟังก์ชันโดดเด่นและเหนือชั้นนี้ได้
การรีเซตเพื่อเริ่มจับเวลาใหม่ได้ทันที: คุณสมบัติที่สามารถจับเวลาได้ใหม่โดยไม่ต้องกดปุ่มหยุดเวลากดเริ่มต้นจับเวลาอีก มักจะอยู่ในระบบนาฬิกาแบบ Flyback Chronograph ที่มีขั้นตอนการทำงานและกลไกซับซ้อน จึงมักเห็นได้ในนาฬิกาที่มีความสวยงาม งานละเอียด เพราะต้องอาศัยช่างทำนาฬิกาที่มีความเชี่ยวชาญสูง
วัดความเร็วได้ : นาฬิกาโครโนกราฟส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักนิยมใช้งานฟังก์ชันจับเวลาควบคู่กับการวัดความเร็ว โดยสังเกตได้จากขอบนาฬิกาบางยี่ห้อที่มีคำว่า Tachymeter ซึ่งเป็นมาตรวัดความเร็วสำหรับการใช้งานเพื่อจับเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมที่ใช้ความเร็วอย่างแข่งรถ เป็นต้น
หลายคนคงคิดว่า Chronograph watch คือ นาฬิกาจับเวลาที่น่าจะใช้งานยาก ซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นนาฬิกาโครโนกราฟมีการใช้งานค่อนข้างง่าย ทั้งยังช่วยอ่านค่าเวลาได้อย่างแม่นยำอีกด้วย เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ตั้งค่านาฬิกาให้พร้อม : สำหรับนาฬิกาแบบไขลานด้วยตัวเองอาจต้องทำการขึ้นลานจนพลังงานเต็มหรือเพียงพอต่อการใช้งานก่อน หรือหากเป็นนาฬิกาประเภทอื่น เช่น นาฬิกาควอตซ์ ที่จำเป็นต้องติดตั้งแบตเตอรีเพื่อให้นาฬิกามีพลังงานสำรองไว้ใช้งาน เพื่อให้นาฬิกาโครโนกราฟทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
กดปุ่ม pusher ด้านบน : เมื่อเตรียมพลังงานให้กับนาฬิกาอย่างเพียงพอแล้ว สามารถเริ่มต้นจับเวลาได้เลย ทันทีที่กดปุ่มพุชเชอร์ด้านบน เข็มวินาทีก็จะเริ่มเดินเพื่อบอกเวลาจนกว่าจะกดปุ่มหยุดจับเวลา
กดปุ่ม pusher ด้านล่าง : ในกรณีที่ต้องการหยุดเวลาแล้ว สามารถกดปุ่มพุชเชอร์ที่อยู่ด้านข้างของนาฬิกาได้เลย จากนั้นจึงมาอ่านค่าในแผนหน้าปัดเวลาขนาดย่อย (Sub-dial) ว่าเวลาที่เริ่มต้นจนถึงตอนจบนั้นถูกใช้ไปเท่าไหร่
หลังจากใช้นาฬิกาโครโนกราฟกันไปแล้ว ก็อย่าลืมที่จะดูแลรักษานาฬิกาให้ดี เพื่อให้นาฬิกาของเราดูสวยงาม น่าใช้งาน และมีสภาพใหม่อยู่เสมอ ที่สำคัญยังช่วยยืดอายุการใช้งานอีกด้วย โดยสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การใส่กล่องนาฬิกา หรือการทำความสะอาดนาฬิกาอยู่เสมอ เป็นต้น
กล่องนาฬิกาคือหนึ่งในไอเทมที่ช่วยดูแลนาฬิกาเรือนโปรดของผู้ใช้งานทุกคนให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด โดยกล่องนาฬิกาจะทำให้สามารถจัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบและป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติที่ไม่คาดคิด เช่น ทำนาฬิกาหล่นหรือกระแทกกับสิ่งของ โดยกล่องเก็บนาฬิกาสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
กล่องเก็บนาฬิกาทั่วไป : เป็นกล่องเก็บนาฬิกาทั่วไปที่สามารถใส่นาฬิกาโดยรัดกับตัวหมอนเพื่อป้องกันไม่ให้นาฬิกาที่เป็นสายสเตนเลสกระทบกันจนเกิดรอยขนแมว มาพร้อมกับที่ล็อกกุญแจเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บ
กล่องเก็บนาฬิกา Automatic : กล่องนาฬิกาแบบออโตเมติกที่มีคุณสมบัติที่ช่วยหมุนให้นาฬิกาเกิดการทำงานตลอดเวลา จึงเหมาะกับนาฬิกาโครโนกราฟและนาฬิกาประเภทอื่นๆ ที่ต้องไขลานเพื่อใช้งานทุกครั้ง นอกจากนั้น ยังสามารถป้องกันชิ้นส่วนภายในนาฬิกาไม่ให้เกิดอาการฝืดเคืองหากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานานได้
ถึงแม้ว่าการใส่กล่องเก็บนาฬิกาจะทำให้นาฬิกาโครโนกราฟหรือนาฬิกาประเภทอื่นๆ มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่องรอยของฝุ่นหรือคราบสกปรกหลังการใช้งานหมดไปแต่อย่างใด จึงขอแนะนำว่าให้หมั่นทำความสะอาดนาฬิกาด้วยน้ำสบู่อ่อนหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมี โดยใช้แปรงสีฟันในการขัดส่วนต่างๆ อย่างเบามือ ถ้าหากเป็นนาฬิกาสายหนัง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดค่อยๆ เช็ดไปตามสาย จากนั้นนำไปผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนเริ่มต้นใช้งานใหม่
เพราะอากาศที่ร้อนหรือสารเคมีบางชนิดเป็นปัจจัยที่ทำให้นาฬิกาเสียหายได้ เช่น หากเป็นสายนาฬิกาทำจากหนังแท้หรือทองคำ เมื่อโดนอากาศร้อนหรือสารเคมีเหล่านี้เข้าไป อาจทำให้ทองหลุดลอก ดูหมองคล้ำ หรือสายหนังแท้แห้งกรอบและมีความแข็งจากการบิดตัวได้ ดังนั้น ให้ระมัดระวังในการใช้งานให้ดี หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบทำความสะอาดโดยทันที
Chronograph watch หรือ นาฬิกาโครโนกราฟ คือ นาฬิกาที่เสริมฟังก์ชันจับเวลาเพิ่มเติม เพื่อใช้งานได้หลากหลาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น นาฬิกาที่มีฟังก์ชันนี้ จึงเหมาะสำหรับกลุ่มคนต่างๆ ดังนี้
นักกีฬาหรือมืออาชีพที่ต้องใช้งานฟังก์ชันจับเวลา : สำหรับอาชีพที่นิยมใช้งานนาฬิกาประเภทนี้ ยกตัวอย่างเช่น นักแข่งรถ นักกีฬาวิ่งแข่ง หรือผู้ที่ต้องการจับความเร็วในการเคลื่อนไหวของคนหรือวัตถุสิ่งของต่างๆ เป็นต้น
นักสะสมนาฬิกา : เนื่องจากดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานของนาฬิกาโครโนกราฟ นอกจากจะใช้งานได้หลากหลายแล้ว ยังมีดีไซน์ที่สวยงามและโดดเด่น จึงทำให้นาฬิการะบบ Chronograph คือของสะสมที่นักสะสมนาฬิกาชื่นชอบด้วยเช่นกัน
นักลงทุน : นอกจากจะเป็นเครื่องประดับแล้ว นาฬิกายังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าแบบหนึ่งที่เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุน เนื่องจากกลไกการทำงานที่มีรายละเอียด ขั้นตอนซับซ้อน ตลอดจนดีไซน์ของหน้าปัดนาฬิกาที่หรูหรา จนใช้ในการลงทุน หรือสะสม ได้เช่นกัน
Chronograph คือฟังก์ชันที่ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว จึงทำให้นาฬิกาโครโนกราฟเป็นทั้งประจักษ์พยานที่สำคัญในทุกช่วงเหตุการณ์ และถ่ายทอดความงดงามและคุณค่าเหนือกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้นาฬิกา Chronograph คือหนึ่งในเครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและเป็นไอเทมที่ช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์ชีวิตในทุกๆ วันได้แบบครบวงจร
