อัปเดต 13 สไตล์การแต่งตัวผู้ชาย 2023 แฟชั่นแบบไหนที่กำลังมาแรง



อัปเดต 13 สไตล์การแต่งตัวผู้ชาย 2023 แฟชั่นแบบไหนที่กำลังมาแรง

 

สไตล์การแต่งตัวผู้ชาย ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็ตาม เป็นการบ่งบอกไลฟ์สไตล์และตัวตนของผู้ชายแต่ละคนได้อย่างชัดเจนที่สุด สำหรับคนที่กำลังมองหา Reference ในการแต่งตัวตามกระแสแฟชั่น และยังไม่รู้ว่าจะเลือกสวมใส่เสื้อผ้าแบบไหนดี บทความนี้จะพามาดู 13 สไตล์การแต่งตัวของผู้ชาย ในปี 2023 ที่รวมทุกสไตล์แฟชั่นที่กำลังมาแรง แต่งตัวตามได้ง่าย ดูดี มีสไตล์ เลือกดูแบบที่ชอบและเป็นตัวเองได้เลย 

 

1. แต่งตัวผู้ชายแบบ CLASSIC MENSWEAR ไม่มีตกเทรนด์

 

1. แต่งตัวผู้ชายแบบ CLASSIC MENSWEAR ไม่มีตกเทรนด์

 

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายในแบบ Classic Menswear คือการแต่งตัวที่เน้นความเนี้ยบ ความเป๊ะเป็นหลัก เหมาะกับผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์หรูหรา นักธุรกิจ มีบุคลิกดูภูมิฐาน นิ่ง สุขุม เคร่งขรึม ชอบใส่ใจรายละเอียดดีเทลเล็กๆ น้อยๆ จุดเด่นของสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Classic Menswear นอกจากจะดูเป็นแฟชั่นที่เรียบหรูแล้วยังช่วยเสริมอำนาจ ดูน่าเชื่อถืออีกด้วย จะแต่งตัวไปทำงานหรือไปเที่ยวก็ดูดีทุกองศา สำหรับใครที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์นี้หรืออยากลองเปลี่ยนมาลุคนี้ดูบ้าง ต้องศึกษารายละเอียดการเลือกเครื่องแต่งกาย ได้เลย

 

องค์ประกอบหลักสำคัญของสไตล์การแต่งตัวชายแบบ Classic Menswear อยู่ที่เนคไท เสื้อสูทสุดเนี้ยบที่สั่งทำขึ้นเฉพาะตัวผู้สวมใส่เองโดยเฉพาะและเสื้อเชิ้ตสีขาวที่แมตช์กับชุดอื่นได้หลากหลาย เมื่อใส่รวมกันออกมาแล้วทำให้บุคลิกกูสง่างามขึ้นอย่างชัดเจน 

 

 สไตล์การแต่งตัวชายแบบ Classic Menswear นั้น สำหรับการเลือกกางเกง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะเลือกให้สี เนื้อผ้าและรูปทรงนั้นเป็นเซตเดียวกับเสื้อสูท เน้นความเป๊ะ ความภูมิฐาน ใส่แล้วช่วยเสริมให้บุคลิกดูสง่างาม น่าเกรงขาม ดูมีเสน่ห์ในแบบของผู้ชายที่ใส่ใจและดูแลตัวเอง 

 

ไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับหนุ่มๆ สไตล์ Classic Menswear ก็คือรองเท้า Loafers หนังสุดเนี้ยบ ที่ช่วยให้การแต่งตัวดูเป็นทางการเพิ่มขึ้นมาอีก สามารถใส่ลุคนี้ได้ทั้งทำงาน ไปเที่ยวและไปเดท

 

สิ่งที่หนีไม่พ้นเลยก็คือ การเซตผมให้มีความเป๊ะ เนี้ยบ เรียบแต่โก้ ไม่โบราณ ดูคลาสสิกแต่ก็ยังมีความแฟชั่นทันสมัย เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมลุค Classic Menswear ให้ดูเป็นสุภาพบุรุษขึ้นสุดๆ และทรงผมที่ฮิตตลอดกาล เข้ากับการแต่งตัวแบบ Classic Menswear  ที่ไม่ตกเทรนด์ คือ  The Slick Back , The Side Parting หรือ The Quiff 

 

เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้สำหรับหนุ่มๆ ที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวชายแบบ Classic Menswear คือ “นาฬิกา” นั่นเอง โดยเลือกนาฬิกาสไตล์คลาสสิก หน้าปัดนาฬิกาแบบเข็ม สายหนังหรือสายสเตนเลสสตีล จะช่วยเสริมให้บุคลิกดูภูมิฐาน ให้​ Total look เป็นสุภาพบุรุษอย่างสมบูรณ์แบบ หานาฬิกาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณเพิ่มเติมได้ที่ NGG 

 

2. SMART CASUAL หนุ่มๆ ชอบแต่ง สาวๆ ชอบมอง

 

2. SMART CASUAL หนุ่มๆ ชอบแต่ง สาวๆ ชอบมอง

สไตล์การแต่งตัวชายแบบ Smart Casual เป็นสไตล์สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบความสบาย ง่าย ๆ แต่ยังดูมีรายละเอียด ดีเทลที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้ดูทางการเกินไป เป็นอีกสไตล์ที่แต่งตามได้ง่ายที่สำคัญยังดึงความสนใจให้สาว ๆ หันมองได้อีกด้วย 

 

การเลือกเสื้อให้เป็นหนุ่ม ๆ  สไตล์ Smart Casual คือการเลือกเสื้อยืดง่ายๆ สักตัว แล้วใส่เบลเซอร์ที่ดูไม่ทางการเกินไปหรือจะเป็นเสื้อแจ็กเกตสักตัวก็ได้  ช่วยเสริมให้ลุคดูเท่ มีสไตล์ แต่ยังดูสบาย เรียบง่าย ชิล ๆ

 

กางเกงที่เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Smart Casual ก็คือกางเกงขายาวที่เน้นความเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี เช่น กางเกงทรงชิโน่ กางเกงผ้าลินิน ยิ่งช่วยเสริมให้ลุคการแต่งตัวดูเรียบง่าย สบาย ๆ ขึ้นแต่ยังดูดี ภูมิฐาน ใส่ไปติดต่องานสำคัญได้

 

หนุ่ม ๆ ที่ชอบสไตล์การแต่งตัวชาย Smart Casual จะเลือกใส่รองเท้าแบบ Loafers หรือรองเท้าผ้าใบก็ได้ โดยเน้นเลือกรูปแบบที่ดูเรียบๆ สีพื้น ไม่มีลวดลายเยอะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเสริมให้ Total look ดูเท่ เรียบง่าย สบายๆ ในสไตล์แบบ Less is more 

 

สำหรับทรงผมในสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Smart Casual ก็เน้นความเรียบง่าย สบายๆ ปล่อยยาวธรรมชาติ เซตจัดแต่งทรงผมเล็กน้อยให้เป็นระเบียบแต่ไม่ถึงกับเรียบจนดูเรียบร้อยเกินไป ทรงผมที่เหมาะกับหนุ่มสไตล์นี้ คือ The Textured Cut With Fringe เน้นผมมาข้างหน้าหรือจะทำทรง The Shoulder Length Cut สำหรับผู้ชายที่ผมยาวสักหน่อยก็ได้ความชิลล์ เรียบง่าย แต่น่าสนใจมาก ๆ 

 

เครื่องประดับที่จะช่วยเสริมให้ลุคนี้ดูสมบูรณ์แบบนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เพียงนาฬิกาสายหนังสักเรือนเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้บุคลิกดูดีขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่าย เข้าถึงง่าย เป็นผู้ชายสบายๆ ที่ดูอบอุ่นแล้ว 

 

3. STREET STYLE แต่งสบายๆ สุดแนว

 

3. STREET STYLE แต่งสบายๆ สุดแนว

ใครที่อยากแต่งตัวง่าย ๆ Match เสื้อผ้าได้หลากหลายแบบ เลือกสไตล์การแต่งตัวชายแบบสตรีท เป็นอีกสไตล์ที่เป็นที่นิยม เพราะแต่งตามได้ง่าย เน้นความสบาย ไม่ทางการ เหมาะกับหนุ่มๆ ที่แต่งตัวเก่ง ชอบ Mix&Match เสื้อผ้าเท่ๆ ซึ่ง Mood&Tone ของสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแนวนี้จะเน้นความสนุก ไม่น่าเบื่อ ใครที่เบื่อง่าย ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ คงต้องชอบสไตล์นี้แน่นอน

 

การแต่งตัวสไตล์หนุ่ม Street จะเน้นเสื้อทรงโอเวอร์ไซซ์ ขนาดใหญ่ ใส่แบบหลวมๆ ส่วนใหญ่มักเป็นเสื้อยืด เสื้อแขนยาวมีฮู้ดหรืออาจจะเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว เรียบ ๆ ที่นำมาแมตช์กับตัวไหนก็เข้ากันได้ง่ายไปหมด

 

ไอเทมของแฟชั่นแนว Street ที่ไม่มีวันตายเลยก็คือกางเกงทรงลุง กางเกงทรงคาร์โก้ ลักษณะทรงกระบอก ทรงขาบานนิดๆ ตัวใหญ่ โอเวอร์ไซซ์สักหน่อย จับมาใส่กับเสื้อตัวไหนก็เข้ากันได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ นอกจากจะได้ความเท่แล้ว ยังได้ความสะดวก ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายอีกด้วย

 

ไอเทมที่จะมาแมตช์กับสไตล์ Street ได้อย่างลงตัวที่สุด ก็ต้องเป็นรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้า Sneaker อยู่แล้ว!  โดยการเลือกทรงรองเท้านั้น เลือกได้หลากหลายมากๆ แล้วแต่สไตล์ความชอบของแต่ละคนได้เลย ซึ่งรองเท้าผ้าใบจะช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ มีสไตล์ เพิ่มเสน่ห์ให้ดูเป็นผู้ชายที่สดใส มีความสนุกน่าค้นหา

 

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแนว Street มีทรงผมที่เข้ากันหลากหลายมาก ไม่จำกัดเลยว่าจะทำผมทรงไหน โดยจะเน้นไปที่ทรงผมง่าย ๆ เท่ ๆ ไม่ทางการและไม่ต้องเนี้ยบ หรือไม่ต้องทำทรงผมก็ได้เพียงหาหมวกเท่ ๆ สักใบใส่แมตช์เข้าไปก็เสริมให้ลุคนี้ดูเท่ขึ้นอย่างเต็มรูปแบบแล้ว

 

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Street ถือเป็นแฟชั่นที่เลือกเครื่องประดับได้กว้างมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวกทรงต่าง ๆ กระเป๋าเท่ ๆ สักใบ หรือจะเป็นเครื่องประดับสีเงิน สีทอง ใส่เข้ามาก็ดูลงตัวสุด ๆ ช่วยให้ลุคดูมีความสนุก น่าสนใจขึ้นมาก ๆ 

 


4. แต่งกายสไตล์ VINTAGE ไม่เก่า ไม่ตกยุค

 

4. แต่งกายสไตล์ VINTAGE ไม่เก่า ไม่ตกยุค

เอาใจหนุ่ม ๆ สายวินเทจกันบ้าง ด้วยการแต่งกายแฟชั่น Vitage ที่ไม่มีวันตาย เหมาะกับคนที่มีความหลงใหลในแฟชั่นยุคเก่า และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบความแตกต่าง mood&tone ของการแต่งกายสไตล์นี้สามารถแต่งได้ทั้งแบบทางการและแฟชั่นสุดๆ ไปเลย เพราะเสื้อผ้านั้นมีแบบให้เลือกหลากหลายมาก จุดเด่นของสไตล์นี้ก็คือกลิ่นอายความเก่า ความคลาสสิก ของแฟชั่นยุคเก่าที่นำมาใส่ให้ร่วมสมัยอีกครั้ง ที่สำคัญเสื้อผ้าบางชิ้นอาจเป็นของหายากที่เหลือเพียงไม่กี่ตัวบนโลก 

 

เสื้อที่บ่งบอกสไตล์ความ Vintage ได้อย่างชัดเจนก็คือ เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด เสื้อโปโล สีพื้นหรือมีลวดลายที่คงความคลาสสิกแบบแฟชั่นยุคเก่าเอาไว้ ที่สำคัญไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เสื้อยืดวินเทจที่ Made in USA ยิ่งเสริมความเท่เต็มพิกัด

 

กางเกงที่จะแมตช์กับเสื้อสไตล์ Vintage สามารถเลือกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ กางเกงชีโน่ กางเกงลายสก็อต นอกจากจะช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ มีสไตล์ เป็นตัวของตัวเองแล้วยังเพิ่มเสน่ห์ให้ดูน่าค้นหาอีกด้วย

 

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Vintage นั้นสามารถเลือกรองเท้าได้หลากหลายทรง ทั้งรองเท้าหนังทรง Loafers หรือจะเป็นรองเท้า Sneaker ทรงคลาสสิกสักคู่ เช่น ทรงรองเท้าของ Converse จะช่วยเสริมให้การแต่งตัวสไตล์ Vintage จัดเต็ม เสริมลุคให้ดูเท่ มีสไตล์ เพิ่มเสน่ห์ความเป็นผู้ชายอบอุ่น

 

ทรงผมที่จะมาช่วยเสริมสไตล์การแต่งตัวผู้ชายสาย Vintage ให้ครบเครื่อง เท่มากยิ่งขึ้นก็คือทรงผมรองทรงปัดข้างแล้วเซตผมให้ดูเรียบคลาสสิก ทำผมแสกกลางสไตล์ Wet look ทำผมทรงควิฟ เน้นเสยและจับให้เป็นทรง แต่ยังคงดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเซตให้เรียบเป๊ะก็ได้ 

 

สำหรับเครื่องประดับก็ต้องเลือกที่สไตล์วินเทจ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเงิน ทองเหลือง สายหนัง รวมถึงการเลือกหมวกทรงวินเทจเข้ามา Mix&Match จะยิ่งเพิ่มกลิ่นอายความคลาสสิกทั้งตัว

 

5. SPORTY ที่ผู้ชายรักสุขภาพ ต้องมีติดตู้

 

5. SPORTY ที่ผู้ชายรักสุขภาพ ต้องมีติดตู้

มาถึงแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวผู้ชายรักสุขภาพกันบ้าง แฟชั่นสไตล์ Sporty เริ่มต้นมาจากยุคศตวรรษที่ 80 ซึ่งในปี 2023 นี้ก็ยังถือเป็นแฟชั่นที่นิยมกันอย่างมาก เหมาะกับผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเล่นกีฬา ชอบออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้คล่องตัว สบาย เรียบง่ายแล้ว ยังเสริมให้บุคลิกดูเท่ มีสไตล์อีกด้วย

 

เสื้อทรงโอเวอร์ไซซ์ขนาดใหญ่จะช่วยให้การแต่งตัวสไตล์ Sport Wear ดูเท่ขึ้นมาก ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบเสื้อแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อวอร์มแขนยาวหรือเสื้อยืด ก็ให้ลุคที่ดูกระฉับกระเฉง คล่องตัว เสริมเสน่ห์ให้ดูเป็นผู้ชายน่าสนใจ น่ารัก อบอุ่น

 

และแน่นอนว่ากางเกงที่เข้ากับสไตล์ ​Sport นั้นก็ต้องเป็นกางเกงวอร์ม ซึ่งก็มีหลายรูปแบบให้ได้เลือกไม่ว่าจะเป็น กางเกงวอร์มทรงจัมป์ขา กางเกงวอร์มทรง Slim Fit หรือจะเป็นกางเกงวอร์มทรงขากระบอก เลือกใส่ได้ทั้งขาสั้นและขายาว จะช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ และยังใส่ได้หลายโอกาส ใส่ในทุก ๆ วันหรือจะไปเที่ยวก็ได้

 

แน่นอนว่ารองเท้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “รองเท้า Sneaker” ซึ่งทรงที่เหมาะสมและจะช่วยเสริมลุคให้การแต่งตัวสไตล์​ Sport Wear จัดเต็มก็คือ รองเท้าผ้าใบที่มีสไตล์หรือออกแบบมาใช้งานสำหรับคนที่เล่นกีฬา คนที่ออกกำลังกายโดยเฉพาะ

 

สำหรับทรงผมที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายสาย Sport Wear สามารถเลือกทำได้หลายทรงด้วยกัน โดยเน้นทรงที่ปล่อยธรรมชาติ ไม่ต้องเซตให้เรียบเป๊ะ เพื่อให้ดูชิล สบาย เรียบง่าย หรือสำหรับผู้ชายคนไหนที่ผมยาวอาจเลือกการมัดผมรวบเพื่อให้ทำกิจกรรมได้ทะมัดทะแมงมากขึ้น ที่สำคัญยังเสริมลุคให้ดูเป็นผู้ชายเท่ น่าค้นหา ดูรักสุขภาพอีกด้วย

 

ไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ชายสายสุขภาพก็คือ นาฬิกา Smart Watch  หรือ Sport Watch ที่มีฟังก์ชันครบครันสำหรับการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้การแต่งตัวสไตล์ชาย Sprot ดูสมบูรณ์แบบที่สุด 

 

6. หนุ่มตี๋ สไตล์ KOREAN MINIMAL สาว ๆ ชอบ

 

6. หนุ่มตี๋ สไตล์ KOREAN MINIMAL สาว ๆ ชอบ

อีกสไตล์ที่มาแรงไม่แพ้กัน คือ สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Korean Minimal ที่เน้นความเรียบง่าย เป็นสไตล์ที่เข้ากับผู้ชายทุกคนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าใครแต่งตัวสไตล์นี้รอดแน่นอน ถึงจะดูเรียบๆ แต่บอกเลยว่าผู้หญิงจะต้องหันมอง เพราะเสน่ห์แห่งความเรียบง่ายทำให้ดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น น่าค้นหา

 

เริ่มการแต่งตัวสไตล์ Korean Minimal  ด้วยการหาเสื้อยืดสีพื้น โทนเรียบๆ ไม่มีลวดลาย หรือลวดลายน้อยที่สุด โทนสีจะต้องเป็นแนวเอิร์ทโทน ไม่ฉูดฉาด ที่สำคัญต้องเป็นเสื้อคอกลม ขนาดโอเวอร์ไซซ์ เพื่อให้ใส่แล้วหลวมๆ ดูสบาย เรียบง่าย เห็นเรียบๆ แบบนี้ แต่มีเสน่ห์ความน่ารักไม่เบาแน่นอน

 

กางเกงที่เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Korean Minimal นั้นที่จริงจะเป็นกางเกงอะไรก็ได้ แต่เน้นความสบาย ดูไม่ทางการเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์เรียบๆ กางเกงผ้าลินิน ขาสั้นหรือขายาวก็ได้ เน้นสีสันเข้มขึ้นมาสักนิดเพื่อให้ตัดกับความเรียบของเสื้อ ช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นชายน่ารัก น่าทะนุถนอมแบบผู้ชายเกาหลี

 

จะให้สไตล์การแต่งตัวผู้ชาย Korean Minimal  สมบูรณ์แบบนั้น รองเท้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ถึงแม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่รองเท้าควรจะเป็นรองเท้า Sneaker ไม่ใช่รองเท้าแตะ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ Total Look ลองสไตล์นี้ครบเซต ดู Less is More ไม่ดูชิลจนเหมือนชุดอยู่บ้านเกินไป 

 

ส่วนทรงผม ที่เหมาะกับการแต่งตัวสไตล์นี้ คงหนีไปพ้นการทำทรงผมแบบผู้ชายเกาหลีหรือเหล่าอปป้าคนดังนั่นเอง เช่น ทรงผม Two Block ทรงคล้ายกับ under cut แต่จะเหมาะกับผมของคนเอเชียมากกว่า หรือจะเป็นทรงผมที่มีหน้าม้า ก็ช่วยเพิ่มความน่ารัก เสริมลุคดูเป็นผู้ชายที่น่าค้นหา น่าอยู่ใกล้มาก ๆ  

 

ไอเทมปิดท้ายที่จะปิดจบให้การแต่งตัวสไตล์นี้ครบสมบูรณ์นั่นก็คือ การเลือกเครื่องประดับเรียบๆ อาจเป็นสร้อยเส้นบางๆ เล็กๆ ลายเรียบๆ หรือเป็นแหวนที่เรียบ ผิวเกลี้ยง ไม่มีลวดลาย จะช่วยเสริมให้สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Korean Minimal น่าสนใจและโดดเด่นขึ้นมาก ๆ 

 

7. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ PREPPY

 

7. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ PREPPY

เป็นสไตล์การแต่งตัวผู้ชายในลุคแบบ High School มีต้นแบบมาจากเครื่องแบบของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในฝั่งตะวัน ตอนนี้ถือเป็นแฟชั่นที่นิยมในปัจจุบันด้วยเช่นกัน การแต่งตัวในสไตล์นี้ ในปี 2023 ถือว่าเป็นสไตล์ที่น่าสนใจไม่แพ้สไตล์อื่นๆ เลย เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ชายที่แต่งตัวสไตล์นี้รู้สึกเด็กลง มีความน่ารัก แต่ยังคงมีความขรึมและเท่ในเวลาเดียวกัน

 

การเลือกเสื้อถือเป็นจุดสำคัญการของแต่งตัวในสไตล์ Preppy อย่างยิ่ง เพราะไฮไลต์ที่เห็นแล้วรู้ได้เลยว่าคือสไตล์นี้คือการใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน คือการใส่เสื้อเชิ้ตหรือโปโลแล้วทับด้วยเสื้อไหมพรมอีกชั้น เสริมบุคลิกให้ดูหล่อและเท่ เหมือนเพิ่งเล่นกีฬาเสร็จหลังเลิกเรียนมาก ๆ 

 

ส่วนกางเกงที่เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Preppy คงหนีไม่พ้นกางเกงชีโน่ที่เน้นความเบาสบาย เรียบง่าย แต่ยังดูภูมิฐาน ยังดูเท่ได้แม้จะแต่งตัวเรียบร้อย 

 

สำหรับรองเท้าควรเลือกเป็นรองเท้าแบบ Slip on, Loafers หรือรองเท้า Sneaker ที่การออกแบบไม่ฉูดฉาด เน้นความเรียบง่าย สีพื้น ไม่มีลวดลาย จะช่วยเสริมให้ลุคนี้เป็นผู้ชายที่หล่อ เท่ มีเสน่ห์​น่าหลงใหล ชวนให้ค้นหา ใครที่ได้เห็นต้องประทับใจแน่นอน

 

ทรงผมที่ช่วยเสริมลุคนี้ให้ดูสมบูรณ์นั้น อาจไม่ต้องทำอะไรเพิ่มมากนัก เน้นทรงผมที่เรียบง่าย แต่ดูสะอาด เป็นทรง ไม่ดูรกรุงรังและ Mix&Match ด้วยหมวกแก๊ปสักใบ ช่วยให้ลุคนี้ดูสมบูรณ์ มีความเท่ปนเนิร์ดเล็ก ๆ อยู่ในลุคเดียว

 

สำหรับเครื่องประดับปิดท้ายให้ลุคนี้จบสมบูรณ์อยากให้เน้นเลือกในสไตล์เรียบ ๆ แบบมินิมอล ดีเทลไม่เยอะ เลือกแว่นตามาเพิ่มความน่ารักอีกนิด แบบหนุ่มเนิร์ดปนเท่หรือว่าจะไม่ใส่เครื่องประดับใด ๆ เลยก็ได้ แค่นี้สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Prepy ก็ดูดี น่าสนใจสุดๆ แล้ว

 

8. LAYERING เสื้อสองชั้นเพิ่มความน่าสนใจ

 

8. LAYERING เสื้อสองชั้นเพิ่มความน่าสนใจ

อีกสไตล์การแต่งตัวผู้ชายที่เพิ่มดีเทลด้วยการใส่เสื้อสองชั้น แต่ยังเหมาะกับอากาศร้อนในบ้านเรา เพราะเสื้อตัวเดียวอาจทำให้ดูเรียบเกินไปและเหมือนขาดดีเทลอะไรบางอย่าง การใส่เสื้อ 2 ชั้นจึงมาช่วยเพิ่มจุดเด่นและความน่าสนใจให้การแต่งตัวคุณผู้ชายมากขึ้นได้ 

 

ข้อสำคัญเลยถ้าไม่อยากใส่เสื้อ 2 ชั้นแล้วร้อนเกินไป คือ เลือกเสื้อข้างในที่บางและใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และเลือกเสื้อคลุมตัวนอกเป็นโทนสีที่ตัดกับเสื้อตัวใน เช่น เสื้อตัวในสีอ่อน เสื้อตัวนอกเป็นสีเข้ม เพียงเท่านี้คุณผู้ชายก็จะดูน่าสนใจ มีดีเทลโดดเด่นกว่าการสวมใส่เสื้อตัวเดียวแล้ว

 

กางเกงที่เหมาะกับการนำมา Match กับเสื้อสองชั้น ก็คือกางเกงที่เรียบง่าย ไม่มีลวดลาย เช่น กางเกงยีนส์ขายาว กางเกงชีโน่ จะช่วยเสริมให้ลุคการแต่งตัวสไตล์ Layering นั้นดูครบมากยิ่งขึ้น 

 

สำหรับรองเท้าที่เหมาะกับการแต่งตัวแบบนี้ก็หนีไม่พ้นรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้า Sneaker ที่เรียบง่าย ไม่มีลวดลาย ใส่สบายและยังช่วยเสริมให้ลุคนี้ดูจัดเต็มยิ่งขึ้น 

 

การไว้ทรงผมสำหรับการแต่งตัวลุค Layering ทำได้หลายแบบไม่มีข้อจำกัด เพียงแต่เน้นทรงผมที่สบายๆ ชิลล์ ไม่มีการเซตจนเรียบเกินไป ไม่ต้องเนี้ยบ เป็นทรงผมที่ทำได้ในทุกๆ วัน หรือจะทำไปเที่ยว ออกเดต ก็ได้เช่นกัน

 

สำหรับใครที่ชอบแต่งตัวสไตล์นี้อาจเลือกเสริมความมั่นใจด้วยเครื่องประดับสักชิ้น โดยเฉพาะนาฬิกา จะช่วยเพิ่มความดูดีมากยิ่งขึ้น โดยเลือกนาฬิกาที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ ความชอบของตนเองได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาแบบไหน สายสเตนเลสสตีล สายหนัง หน้าปัดดิจิทัล หน้าปัดแบบเข็ม ก็เข้ากับการแต่งตัวสไตล์นี้ได้ลงตัวสุด ๆ 

 

9. แต่งตัวแนว CAMPING STYLE ผู้ชายสายธรรมชาติ

 

9. แต่งตัวแนว CAMPING STYLE ผู้ชายสายธรรมชาติ

เป็นแฟชั่นที่มาแรงในปี 2023 นั่นก็คือสไตล์การแต่งตัวผู้ชาย Camping Style ที่ไม่ได้แต่งไปเข้าป่าได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังนำมาแต่งไปเที่ยวในชีวิตประจำได้อีกด้วย นอกจากจะดูสบาย เรียบง่าย ยังบ่งบอกสไตล์ที่ชัดเจนของผู้สวมใส่เองด้วย ว่ามีใจรักธรรมชาติ ชื่นชอบการไปตั้งแคมป์

 

เสื้อสำหรับสไตล์การแต่งตัว Camping จะเลือกเป็นเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตก็ได้ แต่ไอเทมสำคัญคือการสวมเสื้อกั๊กทับไปด้วย ช่วยเพิ่มความเท่ให้กับลุคนี้เยอะมาก ๆ 

 

กางเกงที่เหมาะกับการไปแคมป์ก็ต้องยกให้กางเกงคาร์โก้มาเป็นอันดับหนึ่งที่หลายคนนึกถึง เป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยถ้าคิดจะเริ่มต้นแต่งตัวสไตล์ Camping เพราะกางเกงคาร์โก้จะช่วยเพิ่มความเท่ บ่งบอกความเป็นสายลุยในตัวผู้สวมใส่ได้ที่สำคัญยังมีกระเป๋าเยอะมาก ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อีกด้วย 

 

แน่นอนว่าทั้งเสื้อและกางเกงมาในแนวสายลุยจัดเต็มแล้ว รองเท้าก็ต้องพร้อมลุยด้วยเช่นกัน โดยรองเท้าที่เหมาะกับสาย Camping นั้นคือรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายสักคู่หรือรองเท้าสำหรับเดินป่าโดยเฉพาะ จะช่วยทำให้ลุค Camping Style นี้ดูสมบูรณ์แบบที่สุด

 

ทรงผมสำหรับชาว Camping Style ไม่มีกฎที่ตายตัวนัก ทรงไหนก็เข้าได้เกือบทั้งหมด เพียงแต่ไม่เซตผมจนเรียบหรือเนี้ยบก็พอ และไอเทมสำหรับทรงผมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหมวกทรง Buget สักใบ เพียงเท่านี้ก็เป็นผู้ชาย Camping Style อย่างเต็มตัว 

 

สำหรับเครื่องประดับเสริมในลุคการแต่งตัว Camping Style นั้นก็ไม่มีอะไรมาก อาจหาสร้อยข้อมือหรือแหวนที่ทำมาจากเครื่องเงินและแว่นตาที่ดูคูลๆ สัก 1 อัน และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือหมวก Bucket เพียงเท่านี้ก็ได้ลุคไปแคมป์สุดเพอร์เฟกต์

 

10. แต่งกายสไตล์ BOYISH สุดคิวท์

 

10. แต่งกายสไตล์ BOYISH สุดคิวท์ 

ใครที่อยากเปลี่ยนการแต่งตัวให้ดูเด็กลง ดูวัยรุ่น มีสไตล์ เป็นตัวของตัวเอง ขอแนะนำสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Boyish เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ดูง่าย เลือกเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้มาแมตช์ได้เลย ใครก็สามารถแต่งตามได้ แม้จะไม่ได้มีดีเทลเยอะ แต่บอกเลยว่าเป็นสไตล์ที่ดูคูลมาก ๆ 

 

เสื้อที่เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวแบบ Boyish คือเสื้อสเวตเตอร์แขนยาวหรือเสื้อฮู้ดแขนยาวทรงโอเวอร์ไซซ์ ใส่แบบหลวมๆ หรือเชิ้ตลายน่ารักๆ ใส่สบาย บอกเลยว่าดูคิวท์ เสริมให้ดูเป็นผู้ชายที่น่ารัก ขี้เล่น สดใส อารมณ์ดีและน่าอยู่ใกล้ด้วยมาก ๆ 

 

ส่วนกางเกงก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก กางเกงคาร์โก้ กางเกงทรงขากระบอกใหญ่ๆ จะขายาวหรือขาสั้นก็ได้ เพียงเท่านี้ก็เปลี่ยนให้เสื้อธรรมดา ๆ ดูมีอะไรสะดุดตาขึ้นมาทันที  ที่สำคัญแต่งง่าย สบายตัว ไม่อึดอัด ทำกิจกรรมได้อย่างคล่องตัวสุด ๆ 

 

ขาดไม่ได้เลยคือรองเท้า Sneaker เท่ ๆ สัก 1 คู่ และอย่าลืมที่จะใส่ถุงเท้าแบบยาวขึ้นมาครึ่งน่อง จะช่วยให้ลุค Boyish ดูครบสมบูรณ์เต็มรูปแบบ ทั้งเท่และคูลมาก ๆ ดูเป็นผู้ชายที่สนุกสนาน ขี้เล่น มั่นใจและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

 

สำหรับทรงผมสไตล์ ​Boyish ไม่มีข้อกำหนดว่าควรจะทำทรงไหน เพราะสไตล์การแต่งตัวผู้ชายสไตล์นี้จะค่อนข้างเปิดกว้าง สามารถเข้ากับทรงผมได้หลากหลายมาก ๆ โดยเน้นความธรรมชาติ ไม่เซตเยอะ  เซตผมแบบไม่ตั้งใจ แค่นี้ก็ได้ลุค Boyish ได้ใจสาวๆ อย่างแน่นอน

 

ไอเทมที่ขาดไม่ได้ สำหรับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Boyish นั่นก็คือหูฟังอันใหญ่มาครอบไว้สักนิด เพียงเท่านี้ก็เป็นอันจบการแต่งตัวสไตล์ Boyish ที่เท่เต็มรูปแบบ โดดเด่นกว่าใครอย่างแน่นอน

 

11. ผู้ชายสุดคูล ด้วยลุค TRACKSUITS

 

11. ผู้ชายสุดคูล ด้วยลุค TRACKSUITS

เป็นอีกสไตล์การแต่งตัวผู้ชายในลุคสปอร์ตที่รวมเอาความเท่และคูลไว้ด้วยกัน หากใครที่อยากแต่งตัวชิลล์และยังดูมีสไตล์ หรืออยากลองเปลี่ยนสไตล์แบบเดิมๆ ไปเลย ขอแนะนำการแต่งตัวในสไตล์ ​Tracksuit เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ถึงแม้จะเป็นแฟชั่นที่มาแรงในช่วงยุค 80’ 90’ ก็ตาม แต่ในปัจจุบันก็ยังมาแรงและแต่งตามได้ง่ายและไม่มีตกเทรนด์แน่นอน 
 

เริ่มต้นที่เสื้อในสไตล์ Tranksuit ต้องเป็นเสื้อวอร์มแขนยาว Track Jacket หรือ  Bomber Jacke รวมถึงเสื้อฮู้ดแขนยาวก็ได้เช่นกัน โดยต้องมีสีสันจัดจ้าน  เพื่อความสนุกในการแต่งตัวและนำมา Mix&Match กับกางเกงที่มีลวดลายเหมือนกัน สีเดียวกัน 

 

ควรเลือกกางเกงที่มีสีและลวดลายเหมือนกับเสื้อ โดยกางเกงที่แนะนำให้ใส่ในลุค Tracksuits ก็คือ Track Pants มีลักษณะเป็นกางเกงวอร์มเหมือนกับชุดพละตอนเรียนนั่นเอง ซึ่งมีทรงให้เลือก 2 ทรง สามารถเลือกตามความเหมาะสมหรือความชอบได้เลย ได้แก่ ทรง Slim Fit ทรงเข้ารูป และทรง Straight ทรงขากระบอกตรง จะช่วยเสริมลุคสปอร์ตแบบเดิมให้ดูเท่ คูล น่าสนใจมากขึ้น

 

แน่นอนว่ารองเท้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้า Sneaker โดยเฉพาะรองเท้าแบบผูกเชือกคลาสสิก รองเท้าทรง Sock Sneakers และรองเท้าทรง Chunky จะช่วยทำให้ลุคนี้แตกต่างจากลุค Sport ทั่วไปอย่างชัดเจน

 

สำหรับทรงผมที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Tranksuit นั้นไม่ได้มีกำหนดไว้ แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายที่แต่งตัวสไตล์นี้มักมีใช้หมวกมาประดับให้การแต่งตัวจัดเต็มมากขึ้น ที่สำคัญยังเพิ่มความเท่อีกด้วย 

 

ในลุคสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Tranksuit อาจมีเครื่องประดับหรือไม่มีก็ได้ โดยอาจเลือกเครื่องประดับที่มาในแนว Sport เช่น Smart Watch หรือ Sport Watch เข้ามาเสริมให้ลุคนี้ดูเต็ม ไม่โล่งเกินไป เป็นลุคที่ดูคลาสสิก ทันสมัยในเวลาเดียวกัน

 

MONOCHROMATIC คุมโทนสีเดียวกันทั้งตัว โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

 

12. MONOCHROMATIC คุมโทนสีเดียวกันทั้งตัว โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ใครคิดว่าการใส่เสื้อผ้าคุมโทนสีเดียวกันทั้งตัวเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เพราะความจริงการใส่เสื้อผ้าที่คุมโทนสีแบบนี้เรียกว่าสไตล์การแต่งตัวผู้ชายในแบบ Monochromatic นอกจากจะสะดุดตาแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเท่ให้กับผู้สวมใส่ บ่งบอกไลฟ์สไตล์ความมีรสนิยมออกมาได้อีกด้วย 

 

การเลือกเสื้อสำหรับสไตล์การแต่งตัว Monochromatic จะเลือกเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อแจ็กเกตก็ได้ และหากสวมใส่เสื้อแบบสองชั้นก็ต้องเลือกเสื้อให้เป็นสีเดียวกัน แต่สามารถจะใช้ผ้าที่แตกต่างกันได้หรือมีลวดลายที่ต่างกันได้เช่นกัน

 

กางเกงก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกางเกงอะไรก็ตาม ต้องเลือกสีกางเกงให้เป็นสีเดียวกันสีของเสื้อ เพื่อคุมโทนการแต่งตัวสีเดียวทั้งชุดหรือเป็นโทนสีเดียวกัน เพียงเท่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการแต่งตัวในสไตล์​ Monochromatic ได้แล้ว

 

การแต่งตัวสไตล์ Monochromic ส่วนใหญ่แล้ว รองเท้าที่ใส่ควรจะเป็นรองเท้าหนังทรง Loafer หรือรองเท้า Sneaker แบบเรียบๆ ไม่มีดีเทลเยอะ ทรงคลาสสิก จะช่วยเสริมให้การแต่งตัวนั้นดูโดดเด่น รองเท้าไม่เข้าไปแย่งซีนสีของชุด 

 

สำหรับทรงผมที่เหมาะกับการแต่งตัวสไตล์นี้ สามารถทำได้หลากหลายทรงเช่นกัน แต่ควรเป็นทรงผมแบบสั้น จะเซตให้เรียบเนี้ยบแบบทรงผม Classic Menswea, The Slick Back , The Side Parting หรือ The Quiff หรือจะปล่อยผม เซตแบบเรียบง่าย ไม่ต้องเนี้ยบมากอย่างทรงผม The Shoulder Length Cut สำหรับผู้ชายที่ผมยาวประบ่า แม้จะเรียบง่ายแต่ก็ดูมีสไตล์มาก ๆ 

 

ส่วนเครื่องประดับที่จะช่วยเติมเต็มให้ลุคการแต่งตัวแบบ Monochromic จัดเต็ม ไม่ดูโล่งหรือขาดอะไรไป อาจเลือกเป็นสร้อยที่ทำมาจากเครื่องเงินหรือเครื่องประดับสีทองเสริมเข้าไปด้วย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ลุคนี้เท่ เก๋ โดดเด่น มีภูมิฐานและดูสนุกมากขึ้น

 

13. CROSS BODY BAG คาดอกสุดแนว เท่ๆ เรียบง่าย มีเสน่ห์

 

13. CROSS BODY BAG คาดอกสุดแนว เท่ๆ เรียบง่าย มีเสน่ห์

มาถึงสไตล์สุดท้าย เป็นอีกสไตล์ที่หลายๆ คนสามารถนำไป Mix&Match ในชีวิตประจำวันตามได้ง่ายๆ คือการใช้กระเป๋าคาดอกเป็นไอเทมหลักในการแต่งตัวสไตล์​ Cross Body Bag ถึงจะเป็นการแต่งตัวง่าย ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ แต่แต่งแล้วดูเป็นผู้ชายแต่งตัวเก่งขึ้นทันที เหมาะกับผู้ชายที่ไม่ค่อยมั่นใจ ไม่กล้าเปลี่ยนลุคตัวเอง แต่อยากแต่งตัวให้ดูดีขึ้นง่าย ๆ การแต่งตัวสไตล์นี้ช่วยให้ดูมีเสน่ห์น่าสนใจ ดูสนุกขึ้นได้ แม้ไม่ได้แต่งตัวเยอะ

 

สำหรับเสื้อที่นำมาใส่กับกระเป๋าคาดอก อาจเลือกเป็นเสื้อยืดคอกลมหรือเสื้อเชิ้ตสีพื้นสักตัว โดยเลือกสีเสื้อให้ตัดกับสีกระเป๋า เช่น กระเป๋าสีเข้ม ควรเลือกสีเสื้อโทนสีอ่อน เพื่อให้กระเป๋าเด่นขึ้นมา 

 

ส่วนกางเกงจะเลือกใส่กางเกงขาสั้นหรือขายาวก็ได้ สามารถแมตช์ได้ทั้งกางเกงยีนส์ กางเกงชีโน่ กางเกงผ้าลินินก็ได้ โดยเลือกแบบเรียบง่าย ไม่มีลวดลาย เพียงเท่านี้ก็แมตช์เข้ากับเสื้อและกระเป๋าคาดอกสุดชิค เสริมให้ลุคเรียบง่ายดูเท่และคูลขึ้นได้ทันที

 

รองเท้าที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายสไตล์  Cross Body Bag ควรเลือกเป็นรองเท้าผ้าใบและรองเท้า Sneaker  ตามสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเองได้เลย จะเห็นได้ว่าเป็นสไตล์ที่แต่งตามได้ง่ายมากจริง ๆ ไม่ต้องมีดีเทลเยอะ ก็เสริมลุคให้ดูน่ารัก ขี้เล่น เท่ขึ้นมาก ๆ 

 

ทรงผมที่เหมาะกับการแต่งตัวสไตล์นี้ สามารถเลือกทรงผมได้หลายแบบ ไม่ว่าจะผู้ชายผมสั้นหรือผมยาวก็สามารถเลือกแต่งตัวสไตล์นี้ได้ เพราะเข้าได้กับทุกผม แต่ควรหลีกเลี่ยงการเซตผมเรียบเนี้ยบเกินไป  

 

ส่วนเครื่องประดับที่จะช่วยเสริมให้ลุคนี้ดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาจเลือกเป็น Smart Watch หรือนาฬิกาสายหนัง สายสเตนเลสสตีลสักเรือนเข้ามาแมตช์ และเสริมด้วยเครื่องประดับเพิ่มความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น สร้อย กำไลหรือแหวนที่ทำมาจากเครื่องเงิน เพียงเท่านี้

 

สรุป

จะเห็นว่าในปัจจุบันนี้ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจการแต่งตัว แต่ผู้ชายก็สนใจการแต่งตัวได้ เพราะการแต่งตัวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจและสร้างเสน่ห์ให้กับตนเองมากขึ้น ซึ่งสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกันไป หากต้องการเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อสร้างความมั่นใจ เปลี่ยนลุคตัวเอง ควรมองหาสไตล์เสื้อผ้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องประดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน กำไลหรือนาฬิกา สามารถเข้ามาช่วยเสริมการแต่งตัวให้ดูดีมากยิ่งขึ้นได้ โดยเลือกให้ตอบโจทย์สไตล์ความชอบของแต่ละคนได้เลย

Back