วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับให้สวยเหมือนใหม่ ไม่ให้ดูหมอง
เครื่องประดับที่นำมาสวมใส่เพื่อความสวยงามเพิ่มเสน่ห์ให้กับแต่ละคนได้เสมอ เครื่องประดับแต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็นเครื่องเพชร เครื่องเงิน ทองคำ หรือพลอยสีต่างๆ เมื่อใส่ไปนานๆ อาจจะทำให้เก่าลงตามกาลเวลา ความแวววาวเหมือนครั้งแรกๆ ที่เคยซื้อใส่ก็เริ่มเลือนรางหายไป วันนี้ NGG Timepieces จะพาไปดู วิธีการดูแลให้เครื่องประดับดูใหม่อยู่เสมอและสวยดังเดิมเหมือนวันแรกที่ได้มา
เครื่องเพชรเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูง การดูแลรักษาและทำความสะอาด จึงควรทำให้ดีและพิถีพิถัน เพื่อคงความเงางามไว้ และเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้น ซึ่งแน่นอนขึ้นว่าการดูแลย่อมต้องมีกระบวนที่ถูกต้องเหมาะสมถึงจะช่วยให้เครื่องประดับเพชรดูดี สีใสตามที่ควรจะเป็น โดยวิธีการดูแล ทำความสะอาดเครื่องประดับประเภทเพชรที่ต่อไปนี้ จะทำให้เครื่องประดับของคุณเลอค่าไปนานเท่านาน สีสวยเหมือนใหม่ถูกใจคุณแน่นอน
ขั้นตอนแรกเราควรรู้จักและเตรียมอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการทำความสะอาดเครื่องเพชรก่อน เมื่ออุปกรณ์พร้อมความต่อเนื่องในการทำความสะอาดก็จะราบรื่น โดยอุปกรณ์ก็จะเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายโดยอยู่ในบ้านของคุณอยู่แล้ว มีดังต่อไปนี้
น้ำอุ่น
ผ้าขนนุ่ม หรือผ้าขนหนูผืนเล็ก
ไดร์เป่าผม
ถ้วย ชาม หรือภาชนะใส่น้ำ
แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่ม
น้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดเพชรโดยเฉพาะ หากไม่มีให้ใช้น้ำยาล้างจานแทนได้
ขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องเพชรเป็นขั้นที่สำคัญมาก หากทำในขั้นนี้ได้ดีรับรองว่าเครื่องเพชรสุดที่รักกลับมาสดใสแวววับได้อีกครั้ง โดยมีวิธีการทำดังนี้
เตรียมภาชนะใส่น้ำอุ่นไว้ให้พร้อม หยดน้ำยาล้างที่เตรียมไว้ประมาณ 5-10 หยด จากนั้นคนให้เข้ากัน
นำเครื่องเพชรแช่ลงไปในน้ำอุ่นที่ผสมไว้เมื่อครู่ รอประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้คราบฝังแน่นคลายออกมา แต่ถ้าเป็นเครื่องประดับที่ไม่เคยทำความสะอาดเลยหรือใส่เป็นประจำก็อาจจะแช่นานประมาณ 20-40 นาที
เมื่อครบกำหนดเวลาก็ให้ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดถูไปมาอย่างเบามือ ซึ่งการขัดควรไปในทิศทางเดียวกัน และระวังเสมอว่าอย่าขัดแรงเกินไปเพราะอาจทำให้เพชรเสียหายและเป็นรอยได้ หากขัดแล้วยังไม่สะอาดดี มีคราบสกปรกอยู่ ให้ทำซ้ำตั้งแต่ขั้นตอนแรกอีกครั้ง จนกว่าเพชรจะใสจนพอใจ
เมื่อสะอาดจนพอใจแล้ว ล้างด้วยน้ำอุ่นอีกรอบ จากนั้นใช้ผ้าขนนุ่มซับน้ำให้หมด เป่าลมด้วยไดร์จนแห้งสนิท หลังจากนั้นเครื่องเพชรสุดที่รักของคุณกลับมาสดใส ประกายแวววาวอีกครั้ง
การทำความสะอาดเพชรมีสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงขณะทำความสะอาด เพื่อป้องกันเกิดอันตรายต่อเครื่องประดับของคุณได้ ดังนี้
ไม่ควรล้างเครื่องเพชรนอกบริเวณภาชนะ เพื่อป้องกันเครื่องเพชรกระเด็นหล่นหายขณะทำความสะอาด
ไม่ควรใช้แชมพูหรือสบู่แทนน้ำยาล้างจาน เพราะสารอย่างมอยส์เชอไรเซอร์ในสบู่หรือแชมพูจะทำให้เพชรดูหมอง ไม่สะท้อนแสงเล่นไฟอีกต่อไป
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่ใช้ทำอย่างอื่นมาทำความสะอาดเพชร เช่น น้ำยาล้างเล็บ ผงซักฟอก หรือคลอรีน เพราะอาจทำให้ตัวเพชรแปลงสภาพได้
ไม่ควรออกแรรงถูมากเกินไป เพราะเสี่ยงทำอัญมณีหลุดออกมา
ไม่ควรใช้กระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาดเครื่องเพชร เพราะผิวทิชชูค่อนข้างหยาบ อาจทำให้ส่วนเนื้อทองหรือโลหะเกิดรอยขีดข่วนได้
นอกจากการทำความสะอาดเพื่อไม่ให้เพชรดูหมองแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและจำเป็นไม่แพ้กัน คือการเก็บรักษาเครื่องเพชร ไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีการเก็บรักษาอย่างไรบ้าง
เก็บใส่กล่องอย่างดี
เมื่อคุณไม่ได้สวมเครื่องเพชรออกไปงานสำคัญที่ไหน ควรที่จะเก็บเพชรไว้ในกล่องหรือถุงที่บุไว้อย่างเรียบร้อย เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจากการวางร่วมกับของอย่างอื่น จนตัวเพชรกับสิ่งของเหล่านั้นเสียดสีกัน
ระมัดระวังไม่ให้เกิดคราบจากเครื่องสำอาง
วิธีต่อมาขอให้คุณระมัดระวังในเรื่องของการเกิดคราบจากเครื่องสำอางทุกชนิดได้ยิ่งดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีมโลชัน หรือสเปรย์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวการที่จะทำให้เพชรของคุณเกิดรอยคราบสะสมของเครื่องสำอาง จะสร้างปัญหาในการบดบังแสงที่ตกกระทบเพชรจนประกายแวววาวบนตัวเพชรหายไป
ไม่สวมใส่เพชรในบางกิจกรรม
ในกิจวัตรประจำวันของคุณล้วนแล้วต้องมีกิจกรรมที่คุณต้องทำ แต่บางกิจกรรมควรหลีกเลี่ยงใส่เครื่องประดับได้ก็เลี่ยง เช่น การเล่นกีฬา หรือกิจกรรมที่ต้องลุยกลางแจ้ง เพราะอาจทำเครื่องเพชรกระทบกระเทือนจนเกิดการชำรุดและหลุดออกได้
เครื่องประดับเงินจัดเป็นเครื่องประดับที่ผู้คนนิยมสวมใส่กันเยอะ แต่เมื่อไรที่มีการใช้งานไปนานๆ อาจทำให้เกิดความหมองคล้ำของเครื่องประดับได้ ซึ่งวิธีการดูแลรักษาเครื่องเงินจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีหลากหลายวิธีมาก จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย
การทำความสะอาดเพื่อดูแลรักษาเครื่องเงิน สามารถใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายเข้าช่วยทำความสะอาดได้ โดยอุปกรณ์ที่จะกล่าวถึงก็สามารถหาซื้อมาได้ง่ายใกล้บ้านคุณ ซึ่งมีดังนี้
ยาสีฟัน
อย่างแรกเลย คือ ยาสีฟัน การใช้ยาสีฟันในการทำความสะอาดเครื่องเงิน ทำได้ด้วยขัดด้วยแปรงขนนุ่มเบาๆ เมื่อมั่นใจว่าสะอาดแล้วก็นำมาล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดด้วยผ้านุ่มๆ ผึ่งไว้ให้แห้งเท่านี้เครื่องเงินคุณก็จะกลับมามีแสงประกายสวยงามแล้ว
น้ำยาล้างจาน
ผสมน้ำเปล่าครึ่งถ้วยและน้ำยาล้างจานครึ่งช้อนชา จากนั้นนำเครื่องเงินแช่ลงไปในส่วนผสมของน้ำเปล่ากับน้ำยาล้างจาน ประมาณ 15 นาที ใช้แปรงนุ่มขัดให้คราบหลุด ล้างน้ำสะอาดให้หมดฟอง เช็ดและผึ่งให้แห้ง เท่านี้ก็จะได้เครื่องเงินที่ดูสวย สะอาดเหมือนใหม่แล้ว
เบกกิงโซดา
นำเบกกิงโซดาไปผสมกับน้ำสะอาดให้เป็นครีม ใช้แปรงขนนุ่มขัดเครื่องประดับให้วาว สวยงาม ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้เรียบร้อย เท่านี้เครื่องเงินก็จะกลับสู่สภาพเดิมได้แล้ว
น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน
คุณสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงินโดยตรง มาทำความสะอาดได้เลย วิธีนี้ไม่มีอะไรยาก เพียงหาซื้อน้ำยานี้มาแล้วก็อ่านตามวิธีการใช้ข้างกล่องได้เลย รับรองเครื่องเงินคุณจะสะท้อนเข้าตาคุณอย่างสว่างจ้าเลยทีเดียว
มันฝรั่ง
วิธีสุดท้ายอาจจะดูแปลกใหม่ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เจ้ามันฝรั่งสามารถช่วยได้จริงเพียงต้มมันฝรั่งจนเละ จากนั้นนำเครื่องเงินมาแช่ไว้หนึ่งชั่วโมง ใช้แปรงขนนุ่มขัดจนสะอาด ล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดและผึ่งให้แห้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากคุณทำความสะอาดแล้วคุณควรระมัดระวังระหว่างที่ทำความสะอาดด้วย โดยมีสิ่งที่ควรระวัง ดังนี้
ระวังไม่ให้โดนเหงื่อบ่อย เพราะเครื่องเงินจะเปลี่ยนเป็นสีดำได้ง่ายหากโดนเหงื่อมากๆ หากเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เสี่ยงเหงื่อออก ควรถอดเครื่องเงินออกก่อน เพื่อป้องกันการเกิดคราบดำ
หลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องเงินไปสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม เพราะอาจทำให้เป็นคราบได้
ไม่ควรวางทิ้งไว้ให้โดนแดดหรือลมเด็ดขาด หากไม่ได้สวมใส่เครื่องเงินแล้ว ควรเก็บเข้าตู้หรือกล่องให้เรียบร้อย
การเก็บรักษาเครื่องเงินให้ดูใหม่ และอยู่กับเราไปได้นานๆ ด้วยวิธีการที่ง่ายดาย คุณสามารถทำได้ ดังนี้
เก็บใส่ถุงซิปล็อก หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว แต่ไม่อยากใช้งานอีก
เก็บใส่กล่อง คุณสามารถหากล่องที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือซื้อกล่องใหม่ใบไม่ใหญ่มาก บุกล่องให้เรียบร้อย เท่านี้เครื่องเงินของคุณก็จะไม่หมอง หรือดำง่ายแล้ว
ทองคำเป็นเครื่องประดับที่ไม่เกิดสนิม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสาเหตุอื่นที่ทำให้เครื่องประดับทองคำดูเก่าและหมองลง ทองคำสามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่าย การดูแลรักษาเครื่องประดับทองคำ และการป้องกันให้ดูใหม่อยู่เสมอจะช่วยให้เครื่องประดับทองคำดูใหม่อยู่เสมอ ผู้ใช้งานจะได้มั่นใจในทุกครั้งที่หยิบมาใส่
วิธีการทำความสะอาดเครื่องประดับประเภททองคำ มีหลากหลายวิธีให้คุณได้ทำความสะอาด อุปกรณ์แต่ละอย่างที่นำมาใช้ทำความสะอาดก็หามาได้ไม่ยาก ดังนี้
แอมโมเนีย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าวิธีการล้างทำความสะอาดเครื่องประดับทองคำด้วยแอมโมเนียเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดี แต่ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้บ่อยๆ เพราะอาจทำให้ทองถูกทำลายหรือสีซีดได้ การทำความสะอาดด้วยแอมโมเนีย ทำได้ดังนี้
ผสมแอมโมเนีย 1 ส่วนต่อน้ำ 6 ส่วน
แช่เครื่องประดับลงไปในเวลาไม่เกิน 1 นาที จากนั้นใช้ที่กรองอันเล็กพอดีๆ เพื่อช่วยเอาขึ้นจากน้ำยาแอมโมเนียเร็วขึ้น
ล้างเครื่องประดับผ่านน้ำก๊อกทันที ล้างจนมั่นใจว่าสะอาดจริงๆ
เช็ดเครื่องประดับทองให้แห้งสนิท
น้ำยาล้างจาน
การทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน ทำได้ดังนี้
ใส่น้ำยาล้างจานเล็กน้อยลงไปในถ้วยน้ำอุ่น ผสมให้เข้ากัน โดยใช้เป็นน้ำแร่หรือน้ำโซดาแทนน้ำอุ่นได้
แช่เครื่องประดับทองในส่วนผสมประมาณ 15 นาที
ขัดเครื่องประดับเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนิ่ม สามารถใช้แปรงปัดคิ้วในการขัดแทนได้
ล้างเครื่องทองด้วยน้ำสะอาด
เช็ดให้แห้งด้วยผ้านิ่ม
ยาสีฟัน
การทำความสะอาดด้วยยาสีฟัน ทำได้ดังนี้
ใช้แปรงสีฟันเก่าที่ใกล้จะทิ้งแล้ว บีบยาสีฟ้าลงไปใส่ผ้า
นำมาขัดเครื่องประดับทองคำของคุณเบาๆ ด้วยมือ จะทำให้เครื่องประดับทองคำของคุณมีความงามวาววับมากขึ้น
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
น้ำร้อน
บางครั้งบนตัวเครื่องประดับทองคำที่คุณสวมใส่ อาจมีคราบไขมันที่เกิดจากเหงื่อติดอยู่ ทำให้ทองคำดูหมอง ไม่เงาเหมือนเดิม การทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนจะช่วยขจัดคราบไขมันเหล่านั้นได้ โดยทำได้ดังนี้
นำเครื่องประดับทองคำลงต้มในน้ำร้อนครึ่งชั่วโมง จะเห็นได้เลยว่าไขมันลอยขึ้นมา
นำผ้านุ่มมาขัดทำความสะอาดอย่างเบามือ
น้ำมะนาว
การทำความสะอาดด้วยน้ำมะนาว ทำได้ดังนี้
บีบน้ำมะนาวหรือมะขามเปียกลงบนภาชนะในปริมาณพอท่วมทอง
นำทองลงไป ทำการแช่นานถึง 1-2 ชั่วโมง หรือแช่ข้ามวันก็ได้
ครบเวลาแช่แล้วก็นำขึ้นเช็ดด้วยผ้านุ่มๆ หรือทิชชู หากตัวทองคำมีลวดลายซับซ้อน รูเล็กเยอะ ให้ใช้แปรงสีฟันขนเล็กๆ ช่วยขัด
เบกกิงโซดา
การทำความสะอาดด้วยเบกกิงโซดา ทำได้ดังนี้
ผสมเบกกิงโซดากับน้ำอุ่นในปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
จากนั้นนำมาป้ายลงบนตัวทองให้ทั่ว ตามด้วยใช้ผ้านุ่มๆ หรือแปรงมาขัดด้วยน้ำสะอาด
เคล็ดลับในการเก็บรักษาไม่ให้ทองคำเก่าเร็วและดูเงางามอยู่เสมอนั้นทำได้ไม่ยาก ดังนี้
เก็บเครื่องประดับทองคำไว้ในกล่อง แยกกับเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
ห้ามทำให้เครื่องประดับถูกน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ เด็ดขาด เช่น น้ำยาฟอกขาว
ควรถอดเครื่องประดับออกเมื่ออาบน้ำ เพราะสบู่จะทำให้เครื่องทองหมองได้
ควรถอดเครื่องประดับทองคำเมื่อลงเล่นสระน้ำ เพราะคลอรีนทำให้ทองสีซีดได้
ระวังเรื่องขีดข่วนและกดทับ โดยเฉพาะทองที่เป็นโลหะ เพราะเกิดรอยได้ง่าย
พลอย อัญมณี เป็นเครื่องประดับที่มีทั้งความแข็งแรงและมีความสวยงาม บางประเภทมีมูลค่าสูงมากเลยทีเดียว จึงควรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาเครื่องประดับประเภทนี้ให้เป็นอย่างดีให้คุ้มมูลค่า
การทำความสะอาดเครื่องประดับประเภทพลอยสีมีหลากหลายวิธี ดังนี้
น้ำยางล้างจานผสมน้ำอุ่น
การทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่น ทำได้ดังนี้
เตรียมน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจานอีกเล็กน้อย
เทส่วนผสมลงถ้วยที่เตรียมและแช่เครื่องประดับไว้ประมาณ 15 นาที
ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดให้ทั่วทุกซอกมุมจนสะอาดหมดจด
ล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากพบคราบอยู่ ให้ใช้แปรงขัดจนกว่าคราบจะหลุด
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง ผึ่งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง
เมื่อมั่นใจว่าเครื่องประดับใดแห้งแล้วก็ให้แยกออกจากเครื่องประดับอื่น เพื่อป้องกันเกิดรอยขีดข่วน
สบู่เหลวผสมแอมโมเนีย
การทำความสะอาดด้วยสบู่เหลวผสมแอมโมเนีย ทำได้ดังนี้
ให้นำสบู่เหลวผสมกับแอมโมเนียเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วผสมกับน้ำอุ่น
เทส่วนผสมเมื่อครู่ลงถ้วยและแช่เครื่องประดับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดให้ทั่วจนกว่าจะไม่เห็นคราบ
ใช้ผ้าเช็ดจนแห้ง หรือผึ่งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง
น้ำยาทำความสะอาดเครื่องพลอย
การทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดเครื่องพลอย ทำได้ดังนี้
ให้ทำการเทน้ำยาความสะอาดเครื่องประดับลงในภาชนะที่เตรียมไว้ในอัตราส่วนที่กำกับไว้ข้างบรรจุภัณฑ์
แช่เครื่องพลอยไว้ตามเวลาที่ระบุไว้
ล้างออกให้เรียบร้อยจนกว่าจับแล้วไม่ลื่น
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง หรือตากให้แห้งสนิท
ข้อควรหลีกเลี่ยงในขณะที่ทำความสะอาดพลอย มีดังนี้
หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะแหลมคมเพื่อแคะสิ่งสกปรกตามซอกเครื่องประดับ เช่น กรรไกร เข็มยาวแหลม เพราะอาจทำให้ตัวพลอยคลอนง่ายและหลุดออกมา
หลีกเลี่ยงการวางเครื่องพลอยไว้ในที่ที่มีความร้อนสูง หรือตากไว้กลางแดดนานเกินไป เพราะจะส่งผลให้พลอยเปลี่ยนสีได้
หากไม่มั่นใจว่าพลอยที่ใช้อยู่เป็นพลอยชนิดไหน แนะนำให้แช่น้ำสะอาดอย่างเดียว แล้วเช็ดด้วยผ้าขนนุ่ม
ควรใส่เครื่องพลอยหลังจากฉีดน้ำหอม หรือสเปรย์ฉีดผมเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันสารเหล่านี้ที่จะลดความแวววาวของพลอยลง
ควรถอดพลอยก่อนทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อไหลลงในพลอยจนเกิดเป็นคราบ
ควรถอดพลอยแท้เมื่อต้องสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด โดยเฉพาะน้ำยาฟอกขาวและน้ำยาฆ่าเชื้อ เพราะจะส่งผลเสียได้
ทำความสะอาดให้ตรงกับประเภทพลอยสี การทำความสะอาด หยก ที่มีค่าความเหนียวสูง แข็งปานกลาง แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนและเช็ดให้สะอาด และถ้าเป็นโอพอล ซึ่งมีเนื้อปรุ น้ำซึมเข้าง่ายมาก จึงควรทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นเช็ดด้วยผ้าจนสะอาด
จะเห็นได้ว่าเครื่องประดับที่คุณใช้ในแต่ละวันสามารถถนอมความสว่างเล่นแสงแวววาวไปได้อีกนานด้วยวิธีการดูแลรักษาที่ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณต้องใส่ใจต่อการรักษาที่ถูกวิธี นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าวิธีการทำความสะอาดเครื่องประดับมีหลากหลายวิธีมาก แต่ละประเภทของเครื่องประดับก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ตัวสารที่จะขจัดคราบส่วนใหญ่จะใช้คล้ายกันหมดเลย เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำร้อน ยาสีฟัน ส่วนอื่นๆ ก็มีจะใช้เฉพาะของเครื่องประดับนั้นๆ กันไป ส่วนวิธีการทำความสะอาดก็มีขั้นตอนที่คล้ายกันมาก ต่างกันแค่บางจุดเท่านั้น รับรองถ้าคุณทำความสะอาดตามนี้เครื่องประดับจะแวววาวให้คุณได้เห็นจนตาลุกวาวไปอีกนาน