13 ตำแหน่งเจาะหูของผู้ชายแบบเท่ๆ พร้อมทริคเลือกต่างหูให้เข้ากับลุค!



เทรนด์แฟชั่นปัจจุบันไปไกลมากๆ แม้แต่แฟชั่นผู้ชายก็ทำให้เซอร์ไพรส์ได้เสมอ อย่างการเจาะหูก็เป็นอีกหนึ่แฟชั่นที่เซอร์ไพรส์หลายคนเช่นเดียวกัน เพราะสามารถเลือกเจาะได้หลายตำแหน่ง สำหรับหนุ่มๆ ที่ยังไม่ทราบว่าเจาะหูแบบไหนดีถึงจะออกมาดูเท่แต่ไม่ Low Class และควรเลือกเจาะตำแหน่งไหนดีให้เหมาะกับตัวเอง ต้องไม่พลาดตามมาดู 13 ตำแหน่งเจาะหูผู้ชายแบบเท่ๆ พร้อมทริคการเลือกต่างหูให้เข้ากับทุกลุคทุกสไตล์ในบทความนี้
 

สิ่งที่ควรคิดก่อนตัดสินใจเจาะหู
 

สิ่งที่ควรคิดก่อนตัดสินใจเจาะหู

การเจาะหูแม้เป็นแฟชั่นเทรนด์ยอดฮิตที่ไม่ว่าใครก็เจาะกัน แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเจาะหูใหม่ๆ สิ่งที่ควรคิดก่อนตัดสินใจทำมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ผู้ชายควรเลือกเจาะหูด้านไหนดี
 

ผู้ชายควรเลือกเจาะหูด้านไหนดี

คำถามที่ว่าผู้ชายควรเจาะหูด้านไหนดี? มักมีค่านิยมว่า “เจาะหูข้างซ้าย” คือผู้ชายที่แท้จริง แต่บรรดากลุ่มชายเทียมรักร่วมเพศส่วนใหญ่แล้ว “เจาะหูข้างขวา” เพื่อแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน แต่ทุกอย่างที่เอ่ยมาล้วนเป็นเพียงค่านิยมและความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น เนื่องจากเราไม่สามารถก้าวก่ายไปตัดสินค่านิยมหรืออัตลักษณ์จากการเจาะหูได้ เพราะปัจจุบันผู้ชายจะเลือกเจาะหูข้างไหนก็ได้ เจาะ 2 ข้าง หรือเจาะมากกว่า 1 รูก็ได้เช่นกัน ตามความชอบของแต่ละบุคคล หากถามย้ำอีกครั้งผู้ชายควรเจาะหูด้านไหนดี คำตอบก็คือ ควรเลือกเจาะข้างที่มั่นใจ เพราะต่างหูเปรียบเสมือนเทรนด์แฟชั่นที่ช่วยเสริมความโดดเด่นได้อย่างลงตัว
 

ต่างหูของผู้ชายมีประเภทอะไรบ้าง
 

ต่างหูของผู้ชายมีประเภทอะไรบ้าง

การพิจารณาประเภทของต่างหูเพื่อเสริมความโดดเด่น ควรเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เพราะต่างหูของผู้ชายมีหลากหลายประเภทให้เลือกสรรตามความชอบที่หลากหลาย หากผู้ชายอยากเจาะหูเท่ๆ ใส่แล้วดูดี ก็ตามมาดูกันว่า ต่างหูผู้ชายมีประเภทอะไรบ้าง

รวม 13 ไอเดียตำแหน่งการเจาะหูของผู้ชาย
 

รวม 13 ไอเดียตำแหน่งการเจาะหูของผู้ชาย

เมื่อตัดสินใจอยากเจาะหู เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามขึ้นมาว่าควรเลือกเจาะหูที่ตำแหน่งไหนดี เพราะใบหูของคนเราแม้ขนาดเล็กนิดเดียวแต่สามารถเลือกเจาะได้หลายจุดตามความชอบหรือตามความเหมาะสม ฉะนั้นแล้วสำหรับใครกังวลใจไม่รู้ว่าตำแหน่งไหนดีที่เหมาะกับเรา แล้วแต่ละตำแหน่งจะเจ็บมากน้อยเพียงใด ต้องไม่พลาดตามไปดู 13 ไอเดียตำแหน่งเจาะหูผู้ชาย จะมีตำแหน่งไหนบ้าง ไปเลย

 

1. ตำแหน่ง Helix

ตำแหน่ง Helix คือการเจาะตำแหน่งบริเวณกระดูกอ่อนตรงขอบใบหูซึ่งเป็นส่วนบนที่อยู่ถัดขึ้นไปจากติ่งหู เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์เสริมความที่ได้อย่างลงตัว สำหรับการเจาะตำแหน่งนี้ไม่ได้เจ็บมาก แต่อาจจะมีอาการบวมอักเสบบ้างหลังเจาะประมาณ 3-5 วัน จึงกลายเป็นตำแหน่งเจาะหูผู้ชายที่ได้รับความนิยมและสามารถเจาะได้หลายรู โดยระยะเวลาการหายของแผลประมาณ 1-3 เดือน
 

2. ตำแหน่ง Orbital

ผู้ชายคนไหนอยากเจาะหูเท่ๆ ต้องลองตำแหน่ง Orbital ซึ่งเป็นการเจาะตำแหน่งกระดูกอ่อนเป็น 2 รูเชื่อมกันบริเวณกลางใบหู เหมาะกับไลฟ์สไตล์การแต่งตัวแบบชาวร็อก สำหรับความเจ็บของตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความเจ็บมากระดับหนึ่ง ระยะเวลาการหายของแผลอยู่ที่ประมาณ 5-6 อาทิตย์
 

3. ตำแหน่ง Auricle

ตำแหน่ง Auricle ตำแหน่งบริเวณกระดูกอ่อนด้านข้างเยื้องไปทางด้านบน เหมาะกับผู้ชายเจาะหูที่แต่งตัวไลฟ์สไตล์ Hip Hop เท่ๆ ชิคๆ สำหรับตำแหน่งนี้ระดับความเจ็บระดับกลาง อาจจะพบเจอกับอาการบวมอักเสบบ้างหลังจากเจาะประมาณ 4-5 วัน ระยะเวลาการหายของแผลประมาณ 2-5 เดือน
 

4. ตำแหน่ง Industrial 

ตำแหน่ง Industrial หรือการเจาะดาม เจาะตำแหน่งกระดูกอ่อนใบหูแนวทแยง Cartilage ส่วนบนติดกับขมับ แล้วใส่ Barbell อันยาวเกินมาหน่อยเสมือนการดามกระดูกไว้ไม่ฉะนั้นอาจจะทำให้รั้งจนเจ็บ สำหรับความเจ็บอยู่ในระดับมาก เพราะมี 2 แผลในคราวเดียวกัน แถมยังต้องเจอกับความเจ็บจากการตึงของการถูกดามด้วย ผู้ชายเจาะหูนี้ต้องรู้ เพราะจะดูแลยากเล็กน้อย ใช้เวลาประมาณ 5-7 วันกว่าอาการจะทุเลา ระยะเวลาการหายของแผลประมาณ 3-9 เดือน
 

5. ตำแหน่ง Snug

ตำแหน่ง Snug การเจาะบริเวณกระดูกอ่อนด้านในตำแหน่งแนวตั้ง เหมาะกับผู้ชายเจาะหูที่ชอบแต่งกายแนวสตรีท สำหรับระดับความเจ็บอาจจะเจ็บกว่า Helix เพราะกระดูกบริเวณนี้ค่อนข้างหนา ต้องหมั่นดูแลแผลเป็นอย่างดี อาจจะเกิดอาการปวดบวมแดงเล็กน้อยประมาณ 3-4 วัน ส่วนระยะเวลาการแห้งสนิทของแผลประมาณ 2-3 เดือน
 

6. ตำแหน่ง Daith

ผู้ชายเจาะหูแบบเท่ๆ อีกตำแหน่งคือ Dait เป็นการเจาะตำแหน่งกระดูกอ่อนด้านในของใบหู ใกล้ๆ กับรูหู เหมาะกับผู้ชายที่ชื่นชอบการใส่ต่างหูแบบห่วง เพราะจะช่วยเสริมความเท่และมีความโดดเด่น ระดับความเจ็บอยู่ในระดับปานกลาง หลังจากเจาะอาจจะมีอาการปวดประมาณ 2-3 วัน ระยะเวลาการแห้งสนิทของแผลแค่เพียง 1-2 เดือน และควรระมัดระวังเวลาแคะหูอาจจะทำให้เล็บไปโดนจนเกิดอาการอักเสบได้
 

7. ตำแหน่ง Forward Helix

ตำแหน่ง Forward Helix เจาะบริเวณกระดูกอ่อนตำแหน่งเยื้องมาฝั่งด้านหน้าบริเวณติดกับขมับ คล้ายๆกับการเจาะ Helix แบบปกติ แตกต่างเพียงอยู่ด้านหน้า ไม่ใช่ด้านหลัง เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการเพิ่มความเท่ ดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ระดับความเจ็บเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างจะเจ็บ แถมดูแลรักษาได้ยาก เพราะเป็นบริเวณแคบๆ ผู้ชายเจาะหูตำแหน่งนี้ต้องดูแลแผลให้ดีเป็นพิเศษในช่วงระยะประมาณ 4-5 วันแรก เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าตำแหน่งอื่น ใช้เวลาสำหรับการหายสนิทของแผลประมาณ 6 เดือน - 1 ปี
 

8. ตำแหน่ง Tragus

ตำแหน่ง Tragus เจาะบริเวณกระดูกอ่อนส่วนต่างหูหน้ารูหู เป็นตำแหน่งเจาะหูผู้ชายที่เจาะแล้วช่วยเพิ่มความโดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบการอวดต่างหูเป็นพิเศษ ระดับความเจ็บสามารถทนได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนหาเจาะตำแหน่งนี้จะสามารถใส่หูฟังได้ลำบาก อาจจะต้องงดการใส่หูฟังไปก่อน ระยะเวลาของแผลที่จะหายดีประมาณ 3-6 เดือน
 

9. ตำแหน่ง Rook

ตำแหน่ง Rook เจาะบริเวณกระดูกอ่อนด้านในตรงรอยหยักหนา ตำแหน่งเจาะหูผู้ชายที่เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการปรับลุคให้ดูเท่ และมีเสน่ห์ สำหรับความเจ็บอยู่ในระดับมากแถมเป็นตำแหน่งที่เจาะยาก เมื่อผ่านไปสักระยะจะทำให้เกิดอาการปวดตุบๆ แต่จะทุเลาเองได้ภายใน 2-3 วัน ระยะเวลาการหายของแผลประมาณ 3-10 เดือน
 

10. ตำแหน่ง Conch

ตำแหน่ง Conch เจาะตำแหน่งกระดูกอ่อนส่วนเว้าที่มีลักษณะเป็นรูปถ้วยเหนือบริเวณติ่งหู เหมาะสำหรับผู้ชายเจาะหูที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่น เสริมความเท่ที่ไม่ซ้ำใคร สำหรับระดับความเจ็บถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความเจ็บมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ เลยก็ว่าได้ ต้องเลี่ยงการนอนทับหู ระยะเวลาการหายของแผลประมาณ 3-9 เดือน
 

11. ตำแหน่ง Transverse Lobe

ตำแหน่ง Transverse Lobe การเจาะผ่านติ่งหูเล็กน้อยเป็นแนวนอน เหมาะกับผู้ชายที่ชื่นชอบการเจาะหูเป็นชีวิตจิตใจเพราะเป็นตำแหน่งที่ช่วยเสริมความโดดเด่นจากตำแหน่งอื่นๆ สำหรับตำแหน่งนี้มีระดับความเจ็บเพียงเล็กน้อย หากดูแลเป็นอย่างดีสามารถหายได้ระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือน
 

12. ตำแหน่ง Upper Lobe

ตำแหน่ง Upper Lobe เจาะบริเวณตำแหน่งเหนือรูหลัก หรือที่ผู้ชายเจาะหูส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่ารูที่ 2 เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์การแต่งตัว ช่วยเสริมความเท่จากตำแหน่งหลัก ดูดีขึ้นอีกระดับ สำหรับระดับความเจ็บของตำแหน่งนี้จะมีความเจ็บที่เท่ากับตำแหน่ง Lobe แถมสามารถทำความสะอาดแผลได้ง่าย หากดูแลดีประมาณ 1-3 เดือนแผลก็เริ่มแห้งแล้ว
 

13. ตำแหน่ง Earlobe

ตำแหน่งเจาะหูผู้ชาย Earlobe เจาะบริเวณติ่งหูหรือจุดเบสิกที่ผู้ชายหลายคนมักจะเลือกเจาะเป็นรูแรก เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์การแต่งตัว สามารถเลือกใส่ตุ้มหูได้หลากหลายและเป็นตำแหน่งที่มีพื้นที่เยอะสามารถเสริมความโดดเด่นได้ด้วยการเจาะหลายรู เป็นบริเวณที่มีความเจ็บน้อยมากๆ หรือแทบจะไม่เจ็บเลย ระยะเวลาการหายของแผลแค่เพียง 1-2 เดือนก็แห้งสนิท
 

ห้ามเจาะเองเด็ดขาด ถ้าไม่อยากติดเชื้อ
 

ห้ามเจาะเองเด็ดขาด ถ้าไม่อยากติดเชื้อ

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงไม่ควรเจาะหูเอง ทั้งที่การเจาะหูไม่น่าใช่เรื่องยาก เพราะว่าการเลือกเจาะหูด้วยตนเองมีโอกาสเสี่ยงมากๆ ที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เนื่องด้วยอุปกรณ์ที่ใช้อาจจะปนเปื้อนเชื้อโรค ฉะนั้นแล้วทางที่ดีที่สุดผู้ชายที่อยากเจาะหูควรเจาะหูที่ร้าน เพื่อความปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงติดเชื้อ แถมด้วยประสบการณ์ของช่างที่มือเบาจะทำให้เราเจ็บน้อยกว่าด้วย
 

วิธีการดูแลแผลหลังเจาะหู
 

วิธีการดูแลแผลหลังเจาะหู

ผู้ชายเจาะหูต้องรู้เมื่อเจาะหูแล้ว สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือการดูแลแผลหลังเจาะหูอย่างเคร่งครัด เพราะหากดูแลไม่ดีอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย สำหรับใครก็ตามที่เจาะหูแล้วอยากหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ ต้องตามมาดูวิธีการดูแลแผล ดังนี้

สรุป

ปัจจุบันเทรนด์เจาะหูก็ยังได้รับความนิยมอยู่เรื่อยๆ สำหรับผู้ชายการเจาะหูถือว่าเป็นสิ่งยอดฮิตไม่ต่างไปจากผู้หญิงเลยทีเดียว เพราะตำแหน่งเจาะหูผู้ชายที่หลากหลายและไอเดียการเจาะหูที่สามารถมิกซ์ได้ตามความชอบจะเป็นตัวช่วยเสริมเสน่ห์ เพิ่มความเท่ แบบมีสไตล์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถเสริมความที่ด้วยเครื่องประดับต่างๆ ได้อีกมากมาย อาทิ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และนาฬิกาสวยหลากสไตล์จาก NGG ที่สามารถเลือกมาแมตช์ให้เข้าได้กับทุกลุคการแต่งตัวของผู้ชายที่เจาะหูได้อย่างลงตัว 

Back