รวม 9 เทคนิคแต่งหน้าออกงานกลางคืน ให้ได้ลุคสุดปัง จะกี่งานก็ไม่หวั่น
ทุกวันนี้การจัดงานต่างๆ รวมถึงการนัดสังสรรค์กับเพื่อนฝูงทั้งหลาย มักเป็นงานช่วงภาคค่ำกันค่อนข้างเยอะ ทำให้หลายๆ คน ประสบปัญหากับการต้องหาวิธี แต่งหน้าไปงานกลางคืน เพราะเป็นสิ่งที่สาวๆ ค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากแสงในตอนกลางคืนแตกต่างจากกลางวัน ทำให้ต้องมีเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้การแต่งหน้าดูสะดุดตาและโดดเด่น
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้างานกลางคืนรูปแบบไหนก็สามารถรับมือได้ทัน ความสวยงามของเมกอัปไม่มีดรอปอย่างแน่นอน มั่นใจได้ทั้งการไปงานเลี้ยงกลางคืน งานแต่งรอบเย็นของทั้งคนที่เป็นเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวก็ตาม การแต่งไปเที่ยวปาร์ตี้กลางคืน หรือการออกไปพบปะช่วงเวลาพิเศษ เช่น การออกเดต หรือนัดหมายสำคัญอย่างการคุยงานกับลูกค้า เป็นต้น และในบทความนี้ จะพาไปดูเทคนิคการแต่งหน้าออกงานกลางคืนให้ได้ลุคสุดปัง จะกี่งานก็ไม่หวั่น ไม่มีพังอย่างแน่นอน
ขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดของการแต่งหน้าในทุกงาน คือ การเตรียมผิวหน้าให้พร้อมก่อนลงเครื่องสำอาง ซึ่งการทำความสะอาดใบหน้า และการบำรุงผิวหน้าก่อนเริ่มแต่งหน้านั้น เป็นการปรับสภาพผิวหน้าให้รับกับเครื่องสำอางได้ดีมากที่สุด เพราะทุกปัญหาผิวหน้าจะมีการฟื้นฟูทุกส่วน รูขุมขนกระชับ และยังทำให้เมกอัปเกาะติดทนนานตลอดทั้งคืนจนจบงาน ไม่จำเป็นต้องแต่งเติมใดๆ ระหว่างการออกงาน เพราะการเติมหน้าสำหรับงานกลางคืนนั้นมีรายละเอียดยิบย่อยที่ยุ่งยากมากกว่าการแต่งหน้าสำหรับออกงานกลางวัน
สิ่งแรกในการบำรุงผิวควรเป็นการทำความสะอาดใบหน้า เริ่มตั้งแต่การล้างหน้าด้วยโฟมและน้ำสะอาดให้หมดจด แล้วตามด้วยการใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเก็บสิ่งสกปรกเล็กๆ ออกให้หมด ค่อยนำโทนเนอร์ลงบนผิวหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้น หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื่นจากบำรุงประเภทมอยส์เจอไรเซอร์ต่างๆ พร้อมปิดท้ายด้วยครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสง UV ของแสงไฟที่รุนแรงสำหรับการออกงานกลางคืน
หลังจากที่เตรียมสภาพผิวหน้าพร้อมเริ่มลงเครื่องสำอางเรียบร้อยแล้วนั้น การรองพื้นชั้นแรกที่สำคัญมากที่สุด คือ การลงผิวด้วยไพร์มเมอร์ เพราะคุณสมบัติของไพร์มเมอร์จะช่วยปกปิดทุกปัญหาของทุกส่วนผิวหน้าทั้งหมดได้ดีที่สุด กลบผิวให้เนียนใส ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยเบลอรูขุมขนก่อนการแต่งหน้า ทำให้ขั้นตอนการลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ติดทน ซึ่งในการลงไพร์มเมอร์ ควรบีบทีละนิดในปริมาณเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วนำไปเกลี่ยใบหน้าจุดที่มีปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาใต้ตา ปัญหารูขุมขน ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ปัญหาสิวและรอยสิว หรืออื่นๆ ทั้งหมดก็ใช้เพียงแค่ไพร์มเมอร์เท่านั้น
นอกจากนี้ อีกหนึ่งคุณสมบัติด้านการแต่งหน้าโดยรองพื้นชั้นแรกด้วยไพร์มเมอร์จะช่วยให้ใบหน้าของเรารับกับแสงไฟในงานกลางคืนเป็นอย่างดี เพราะตัวไพร์มเมอร์สามารถกระจายแสงไฟหรือแสงแดดธรรมชาติ ให้กระทบกับผิวหน้าแล้วดูโดดเด่นเป็นธรรมชาติที่สุด จึงเหมาะสมกับเป็นไอเทมในการแต่งหน้าไปงานกลางคืน
ในการเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิวหน้า จะช่วยให้ใบหน้าไม่เทา การปกปิดดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และทำให้ใบหน้าขาวเนียน ไม่ทำให้เครื่องสำอางอื่นๆ โดนรองพื้นกลืนหายหรือลอยออกมา ซึ่งการเลือกรองพื้นสำหรับแต่งหน้างานกลางคืน สิ่งที่ต้องดูหลักๆ คือ เฉดสีของรองพื้น ควรเลือกให้เหมาะกับสีผิวกับตนเอง แนะนำให้ลองปาดสีรองพื้นไว้บริเวณหลังข้อมือจะช่วยให้เห็นสีรองพื้นที่เหมาะกับสีผิวหน้าได้แม่นยำมากที่สุด พร้อมทั้งให้ดูคุณสมบัติของเนื้อรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวเราด้วย โดยการเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวมัน แนะนำให้ใช้รองพื้นที่เป็นเนื้อมูสหรือแบบลิควิด จะทำให้ใบหน้าไม่เป็นคราบจากเครื่องสำอางและช่วยคุมมันได้ดี ส่วนรองพื้นที่เป็นเนื้อแมตต์สูตร oil free เพื่อช่วยปกปิดปัญหารูขุมขนและคุมความมันตลอดทั้งคืน ส่วนใครที่ไม่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวมัน สามารถเลือกใช้สูตรไหนก็ได้ แต่ต้องเลือกสีให้เหมาะกับเฉดสีผิวหน้าของเราเป็นหลัก
ดังนั้น ในการต้องแต่งหน้าออกงานก็ขึ้นอยู่กับธีมงานหรือลักษณะสถานที่ที่จะไปนั่นเอง อย่างในบรรยากาศงานที่มีอากาศร้อน เต้นแรง หรือการแต่งหน้าปาร์ตี้กลางคืน ไปผับ ไปบาร์ควรเลือกรองพื้นเนื้อแมตต์ เพื่อไม่ให้เมกอัปเยิ้มมันระหว่างออกงานแต่หากเป็นการแต่งหน้าไปงานแต่งกลางคืน ส่วนงานที่ต้องแต่งด้วยลุคเบาๆ ชิลๆ ควรเลือกเนื้อรองพื้นแบบลิควิด เพื่อเน้นที่การปกปิดและช่วยให้ผิวเนียนสวยสู้แสงไฟสว่าง ได้ทุกเฉดสีไฟในงาน ให้ง่ายที่สุดอาจเลือกรองพื้นตามสภาพผิวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีสภาพผิวแบบไหน ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ไปจนถึงผิวเป็นสิว แค่เลือกรองพื้นให้ถูกต้องกับผิวหน้า เท่านี้ก็เหมาะสมกับใบหน้าแล้ว
คอนซีลเลอร์ เป็นเครื่องสำอางที่ทำหน้าที่คล้ายกับรองพื้น จะช่วยในเรื่องการปกปิดปัญหาต่าง ๆ บนในหน้าได้เนียนมาก แต่คุณสมบัติหลักของคอนซีลเลอร์จะเป็นการช่วยจัดการปกปิดปัญหาผิวส่วนที่หนักที่สุดได้ดี มีความเข้มข้นสูง ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้ทาไปทั้งไปหน้า แต่เหมาะกับการแต้มปิดเฉพาะบางจุดเท่านั้น โดยคอนซีลเลอร์มีทั้งแบบที่เป็นเนื้อครีม เนื้อน้ำ และแบบแท่งดินสอที่พร้อมขีดแต้มเฉพาะจุด สามารถเลือกแบบใดก็ได้ แต่ต้องเน้นเลือกไปที่เฉดสี ควรเลือกคอนซีลเลอร์สีเดียวกับรองพื้น หากต้องการเน้นใบหน้าธรรมชาติและการปกปิดปัญหาผิวหน้าที่เนียนที่สุด เหมาะกับงานที่แสงไฟทั่วถึงทั้งงาน หรือใครที่ต้องการใช้เพื่อไปออกงานแสงน้อย มีแสงไฟหลักๆ ใหญ่ๆ แค่บางจุด ก็อาจเลือกสีคอนซีลเลอร์ที่โทนสว่างกว่ารองพื้นไป 1 เฉดแบบเบา ๆ เพื่อให้รับกับแสงไฟจุดใหญ่ ๆ แล้วช่วยให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น สามารถใช้ไฮไลต์จุดรับแสงอย่างใต้ตา คาง หน้าผาก โหนกแก้ม และสันจมูกได้
เทคนิคในการเลือกสีคอนซีลเลอร์สำหรับช่วยปกปิดปัญหารอยแต่ละประเภทบนใบหน้า สามารถเลือกได้ทั้งการปกปิดรอยดำ รอยแดง รอยสิว รอยนูนต่างๆ แบบเฉพาะจุดมากขึ้นได้ ซึ่งต้องรู้จักเฉดสีหลักของรอยบนใบหน้าเราก่อน โดยพื้นเฉดของรอยจะมีเป็น รอยแดง ที่มักมาจากปัญหาผิวและปัญหาสิวบนใบหน้า รวมถึงปัญหาใต้ตาคล้ำ และรอยม่วง ที่มักมาจากปัญหารอยแผลต่างๆ เพราะฉะนั้น ใครที่ต้องการปกปิดปัญหารอยแดง แนะนำให้เลือกเป็นโทนสีเบจหรือสีในโทนเนื้อสว่างไปทางส้มอ่อนจะช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและสว่างเรียบเนียน ส่วนใครที่ต้องการปกปิดรอยม่วง แนะนำให้เลือกเป็นโทนเบจที่ออกไปทางชมพูอ่อนๆ หรือโทนที่เป็นสีผิวและเฉดสีเดียวกับรองพื้นไปเลย เพื่อให้การปกปิดดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
การลงคอนทัวร์ จะเป็นเหมือนกับการปรับโครงหน้าให้เรียว ดูมีมิติ และจัดเก็บบริเวณของใบหน้าที่มีไขมันเกินออกมา หรือส่วนที่ไม่มั่นใจให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติได้ เรียกได้ว่า การลงคอนทัวร์จะช่วยปรับรูปหน้าหรือกรอบหน้าให้เปลี่ยนไปตามต้องการได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรมใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงการช่วยปกปิดผิวหน้าที่เกิดปัญหาจากรูขุมขน รอยหลุมสิว รอยดำรอยแดงต่างๆ ทั้งหมด เป็นการเสริมความเรียบเนียนในการปกปิดขั้นสุดท้าย ต่อจากรองพื้นและคอนซีลเลอร์
ในการเลือกสีคอนทัวร์แต่งหน้าออกงานกลางคืน เราจะเลือกให้เป็นเฉดที่เข้มกว่าผิวอยู่แล้ว เพื่อสร้างมิติของกรอบหน้าได้ชัดเจน ซึ่งสามารถเพิ่มไฮไลต์เฉดที่จุดเด่นของใบหน้าด้วยรองพื้นหรือแป้งที่มีเฉดสว่างมากกว่าได้ทันที เป็นการทำ shading ง่ายๆ เมื่อมีคอนทัวร์เข้ามาช่วย สำหรับคนที่มีผิวขาวอยู่แล้ว แนะนำให้เลือกสีคอนทัวร์เฉดน้ำตาลตุ่นๆ อมเทาได้ จะช่วยทำให้กรอบหน้าชัดมากขึ้น สีผิวบริเวณที่คอนทัวร์ดูไม่โดดและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแน่นอน ส่วนใครที่มีผิวสีเข้ม แนะนำให้เลือกสีคอนทัวร์เป็นเฉดออกโทนส้ม แดง และเป็นสีที่เน้นทำไฮไลต์สว่างเป็นหลัก ไม่ควรเลือกเฉดสีที่อมเทาเพราะจะกลมกลืนไปกับสีผิวมากเกินไป ทำให้ดึงกรอบหน้าออกมาชัดๆ ไม่ได้ และใครที่มีผิวสีน้ำผึ้งหรือผิวสองสี สามารถเลือกคอนทัวร์เฉดสีไหนก็ได้ และในทุกๆ สภาพผิว แนะนำให้ใช้เป็นคอนทัวร์แบบแท่ง เพื่อให้ง่ายต่อการปาดโซนกรอบหน้าและเกลี่ยได้รวดเร็ว เรียบเนียนมากกว่านั่นเอง
ในการเติมสีสันความสดใสของใบหน้าและแก้มด้วยบลัชออน เป็นจุดสำคัญที่จะดึงความสวยงามและความโดดเด่นของใบหน้าที่เป็นธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกสีบลัชออนตามปกติแล้ว จะเลือกให้เข้ากับสีผิวบนใบหน้าที่ยังไม่ได้ผ่านเฉดของการลงรองพื้นและการปกปิดมา หรือสามารถลองสีบลัชออนกับหลังมือเราก็ได้ เพื่อให้เห็นสีที่แท้จริง ซึ่งจะกลืนไปกับผิวระหว่างวันนั่นเอง
โดยปกติแล้วการเลือกสีบลัชออน มักจะเป็นการเลือกจากพื้นสีผิว อย่างคนที่มีผิวขาวจะต้องเลือกบลัชออนที่เป็นโทนสีชมพู สีแดง เพื่อให้ใบหน้าดูมีแก้มสีระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นรอยด่างบนแก้ม ส่วนใครที่มีผิวสีเข้มจะต้องเลือกบลัชออนที่เป็นโทนส้มแดง เพื่อเพิ่มมิติของใบหน้าให้สวยคมดูเป็นธรรมชาตินั่นเอง ส่วนการแต่งหน้าออ งานกลางคืน แนะนำให้เลือกบลัชออนโทนสีหลักไปทางชมพูสำหรับผิวขาว และโทนสีไวน์แดงสำหรับผิวเข้ม โดยให้เลือกแบบที่มีประกายกากเพชร หรือบลัชออนสีที่เป็นกลิตเตอร์ระยิบระยับชัดๆ ไปเลย ช่วยให้ผิวเปล่งประกายเพื่อสู้กับแสงไฟ โดดเด่นได้ทั้งในหน้างานและภาพถ่าย สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว
ไฮไลต์ เป็นอีกหนึ่งประเภทของเครื่องสำอางที่ช่วยให้ใบหน้าของเราดูโดดเด่น เป็นประกาย และมีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ทำให้ใบหน้าดูจืดชืดหรือจมหายไปกับเมกอัปนั่นเอง โดยคุณสมบัติหลักของไฮไลต์นั้นจะใช้เพื่อเน้นจุดเด่น จุดสำคัญที่เป็นเสน่ห์ของใบหน้าเราให้ชัดขึ้น ยิ่งการแต่งหน้าไปงานกลางคืนนั้น ไฮไลต์ก็เป็นไอเทมสำคัญอีกหนึ่งอย่าง เพราะงานกลางคืนต้องการความโดดเด่น เล่นไฟ เล่นแสง จึงต้องมีการปัดไฮไลต์บริเวณโหนกแก้ม สันจมูก และปลายจมูก เป็นหลัก เพื่อเพิ่มความเปล่งประกาย แวววาว จากเดิมที่ไฮไลต์จะปัดทั่วจุดสำคัญของใบหน้าอยู่แล้ว แต่งานกลางคืนต้องเน้น 3 ส่วนนี้เป็นพิเศษ จะดูสุขภาพผิวดีและเปล่งประกายได้ แม้เป็นเวลากลางคืนหรืออยู่ที่แสงน้อยก็ตาม
ส่วนการเลือกสีไฮไลต์เพื่อให้โดดเด่นและสวยงามเข้ากับทุกสภาพแสงน้อยของงานกลางคืนแต่ละแห่ง แนะนำให้เลือกพื้นสีไฮไลต์จากเฉดที่เข้ากับสีผิวเป็นหลักก่อน พร้อมตามด้วยคุณสมบัติเสริมที่เป็นโทนสีไฮไลต์ประกายมุกอมครีมสว่าง เพื่อให้จุดเด่นของใบหน้าชัดมากขึ้นในทุกเฉดสีผิวนั่นเอง ซึ่งพื้นฐานสีไฮไลต์ของคนที่มีผิวขาวหรือผิวปกติ สามารถใช้โทนทอง โทนพีชสีออกไปทางแดงชมพูได้ ส่วนใครที่มีผิวเข้ม แนะนำให้ใช้ไฮไลต์เป็นเฉดสีบรอนซ์หรือเฉดสีทองแดง จะช่วยให้ใบหน้าคมมีมิติอย่างมาก
การแต่งตาและการเขียนคิ้ว เป็นจุดสำคัญที่จะกำหนดความสวยปังของใบหน้าเราในการออกงานต่างๆ สำหรับโจทย์ที่ยากที่สุดของการแต่งหน้างานกลางคืนนั้น จะเป็นเรื่องของพื้นที่การตกแต่งดวงตาสำหรับคนไทยเราอย่างมาก เพราะพื้นที่ของดวงตาคนฝั่งเอเชียจะค่อนข้างเล็กกว่าคนฝั่งยุโรปอย่างมาก จึงต้องมีการแต่งตาที่เข้มขึ้น และเลือกเฉดค่อนข้างเข้มมากเป็นหลัก เพื่อให้เห็นใบหน้าทั้งหมดอย่างชัดเจนในช่วงเวลาแสงน้อย ดังนั้น การแต่งตาสำหรับงานกลางคืน ควรเลือกโทนสีเฉดเข้มของน้ำตาล แดง หรือสีไวน์ให้เข้ากับเฉดใบหน้าเรา และหากใครที่เป็นคนตาสองชั้น แนะนำให้เลือกใช้อายแชโดว์แบบแมตต์ เพื่อดึงเสน่ห์ความชัดเจนของดวงตาได้ดีที่สุด และหากเป็นคนตาชั้นเดียว ควรเลือกอายแชโดที่เน้นไปทางกลิตเตอร์ เพื่อให้สายตาดูน่าดึงดูดเข้ากับใบหน้ามากขึ้น ส่วนข้อควรระวัง คือ ไม่ควรเลือกสีอายแชโดว์ที่ตรงกับสีชุดออกงาน เพราะจะทำให้การแต่งหน้าเสียสมดุล
นอกจากการแต่งตาโดยใช้อายแชโดว์เกลี่ยสีเพิ่มจุดเด่นของดวงตาแล้ว การกรีดอายไลเนอร์ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากเช่นกัน เพราะจะช่วยให้ดวงตาดูโตมากขึ้น สามารถเปลี่ยนบุคลิกของเราได้ตามการกรีดอายไลเนอร์ทันที ไม่ว่าจะเป็นความโฉบเฉี่ยว ความอ่อนหวาน หรือสร้างความโดดเด่นก็ตาม ที่สำคัญคือแนะนำให้เลือกอายไลเนอร์แบบกันน้ำได้ดี เพื่อให้ไม่เยิ้มจากเหงื่อในจุดเล็กๆ ที่โดนแสงไฟของงานกลางคืนสาดมา และสุดท้ายคือการเขียนคิ้ว แนะนำให้เลือกทรงธรรมชาติและใช้สีคิ้วที่ใกล้เคียงกับสีผมมากที่สุด เพื่อให้ใบหน้าสวยงามเหมาะสม ครบองค์ประกอบ
ในการเลือกสีลิปสติกเพื่อเพิ่มสีสันให้กับปาก และเติมเต็มองค์ประกอบรวมของใบหน้าให้สมบูรณ์นั้น มีหลักการเลือกสีที่ง่ายมาก โดยเฉพาะการแต่งหน้าออกงานกลางคืน สามารถเลือกสีลิปตามเฉดของโทนชุดที่แต่งไปงานได้เลย โดยหากใส่ชุดสีโทนเย็น แนะนำให้ใช้ลิปในเฉดสีชมพู และหากเป็นชุดสีโทนร้อน แนะนำให้ใช้ลิปในเฉดส้มกับแดงเป็นหลัก จะแมตช์กับชุดและรับกับใบหน้าได้ดีมากขึ้น ส่วนขั้นตอนในการทาปากให้เริ่มจากการทาลิปบำรุงปากก่อน เพื่อให้มีความชุ่มชื้นและอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วตามด้วยการใช้ดินสอเขียนขอบปากเพื่อสร้างกรอบในการลงสีลิป ตามด้วยการลงสีปากให้ทั่วจากสีลิปสติกที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง สามารถเลือกเนื้อลิปแบบครีม หรือเนื้อลิปแมตต์ก็ได้ตามความชอบ
ส่วนการดูสีของลิปในการออกงานกลางคืน นอกจากจะเป็นการเทียบเฉดสีหลักกับโทนสีของเสื้อผ้าแล้ว ควรเลือกระดับความเข้มของเฉดสีนั้นๆ ให้อยู่ในเฉดเดียวกันกับสีตาหรืออายแชโดว์ และหากต้องการความโดดเด่นสู้แสงไฟในงานที่มีแสงน้อยมากๆ หรือแต่งหน้าปาร์ตี้กลางคืน ให้เน้นสีจัดจ้าน สีแดง สีไวน์ สีโทนเข้ม
การแต่งหน้ากลางคืน เรียกได้ว่ามีความง่ายมากกว่าการแต่งหน้าในตอนเช้าอย่างมาก เพราะขั้นตอนสำคัญหลักๆ ของการแต่งหน้าออกงานกลางคืน จะเน้นไปที่การบำรุงผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้นและเน้นการปกปิดทุกปัญหาบนใบหน้าให้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากที่สุด รวมถึงการเลือกเฉดสีของเครื่องสำอางต่างๆ จะไปทางโทนที่เข้มมากขึ้นกว่าการแต่งหน้าตอนเช้า เพื่อเน้นสีสันของเครื่องสำอางให้ชัดเจน สร้างกรอบหน้าและบุคลิกความโดดเด่นของใบหน้ามาสู้กับพื้นที่แสงน้อยให้มีความโดดเด่นมากที่สุด รับรองว่าอยู่ได้จนจบงาน ไม่มีดรอป ไม่มีซีดหรือเยิ้มระหว่างปาร์ตี้แน่นอน ซึ่งเทคนิคการแต่งหน้าที่นำมาแชร์นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ หรือใครที่อยากแต่งหน้าไปงานกลางคืน