หนุ่มๆ ต้องรู้ 13 เทคนิคแต่งตัวสุภาพผู้ชาย พร้อมลุยทุกงานไม่มีหวั่น



หนุ่มๆ ต้องรู้ 13 เทคนิคแต่งตัวสุภาพผู้ชาย พร้อมลุยทุกงานไม่มีหวั่น

 

การแต่งตัวสุภาพเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตประจำวันของผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อต้องออกงาน ไปสถานที่สำคัญ หรือมีกิจกรรมที่ต้องแต่งกายเรียบร้อย การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมและสุภาพจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ นอกจากนี้ การเลือกรองเท้าที่สวยงามและเหมาะสมกับโอกาสก็มีความสำคัญเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น การเลือกใช้เครื่องประดับที่เหมาะสมยังช่วยเสริมสร้างความสุภาพของผู้ชายอีกด้วย ในบทความนี้เราจะพาไปดู 13 เทคนิคในการแต่งตัวสุภาพของผู้ชาย ให้เนี้ยบและน่าประทับใจในทุกโอกาสกัน

 

เลือกแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่ หรือกาลเทศะ

 

1. เลือกแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่ หรือกาลเทศะ

 

การแต่งตัวออกงานให้เข้ากับสถานที่หรือกาลเทศะเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการเข้าสังคมของผู้ชายทุกคน การแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมต่อสถานที่อาจส่งผลให้เสียความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ และก่อให้เกิดภาพลบทั้งกับตัวเองและสังคมโดยรอบได้ โดยตัวอย่างการแต่งตัวที่เหมาะสมมีดังต่อไปนี้

 

สถานที่ราชการ พิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ทางการ

 

สถานที่ราชการ พิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ที่เป็นทางการเป็นสถานที่ที่มีความเคร่งครัด จึงควรเน้นความเรียบง่าย เป็นทางการและสุภาพในการแต่งตัว เป็นการแสดงความเคารพสถานที่และกิจกรรมที่เข้าร่วม การให้ความสำคัญในความสุภาพในการแต่งตัวช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือเพื่อแสดงความเคารพสถานที่นั้นๆ จึงควรเลือกแต่งกายดังนี้

 

 

สถานที่สำคัญทางศาสนา

 

สถานที่สำคัญทางศาสนาเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพนับถือของคนในสังคม การแต่งตัวให้สุภาพจึงเป็นเรื่องที่ผู้ชายทุกคนควรให้ความสำคัญ ในการแสดงความเคารพและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นั้นๆ ควรปฏิบัติตามกฎหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการแต่งกายในสถานที่นั้นๆ และเลือกแต่งตัวให้เหมาะสม เช่น

 

 

อาคารสำนักงาน หรือบริษัท

 

อาคารสำนักงานหรือบริษัทเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศทางธุรกิจ ต้องการความเป็นทางการและความเป็นมืออาชีพ ทำให้การแต่งตัวในสถานที่นี้ควรเน้นความเป็นทางการและมีความพร้อมในการพูดคุย ทำงาน โดยการเลือกแต่งตัวที่เหมาะสม มีดังนี้

 

 

ร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือคาเฟ่

 

การแต่งตัวไปร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือคาเฟ่ควรเน้นความสบาย เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์สไตล์ของตัวเอง โดยควรให้ความสำคัญในเรื่องของสีสันและสไตล์ที่สนุกสนาน เพื่อให้รู้สึกดีและสบายใจขณะที่อยู่ในสถานที่นั้นโดยต้องไม่ลืมรักษาความสุภาพในการแต่งตัวเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีไปด้วย และเพิ่มความสนุกสนานให้กับประสบการณ์ของการไปรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานที่นั้น ตัวอย่างการแต่งตัวดังนี้

 

 

รู้จักตัวเอง และหาสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง

 

2. รู้จักตัวเอง และหาสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง

 

การรู้จักตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในการแต่งตัวสุภาพผู้ชาย การเลือกเสื้อผ้าและสไตล์ที่ตรงกับตัวเองจะช่วยให้รู้สึกสะดวกสบายและมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามการมีความรู้ในเรื่องแฟชั่นและรูปร่างของตัวเอง ก็จะช่วยให้การเลือกสไตล์การแต่งตัวได้เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น โดยสามารถหาแรงบันดาลใจและไอเดียในการแต่งตัวได้จากแหล่งที่น่าสนใจ 

นอกจากนี้ยังสามารถลองแต่งตัวหลายๆ แนวเพื่อค้นหาสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง จึงจะสามารถแสดงออกถึงความเป็นธรรมชาติและเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของตัวเองได้ โดยหากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหนดี คำแนะนำต่อไปนี้ก็สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้

 

ควรมีชุดสูทที่เหมาะกับตัวเองติดตู้ไว้

 

3. ควรมีชุดสูทที่เหมาะกับตัวเองติดตู้ไว้

 

ชุดสูทเป็นชุดสำคัญในการแต่งตัวสุภาพผู้ชาย เพราะสามารถใช้งานได้หลายโอกาส จึงควรมีชุดสูทที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างน้อยหนึ่งชุดในตู้ 

การตัดสูทใหม่ควรทำให้ได้ขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่าง เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบายและดูทะมัดทะแมง การทำให้ชุดสูทพอดีกับรูปร่างจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นอีกด้วย

 

สูทแบบอเมริกัน

สูทแบบอเมริกันเน้นความคล่องตัวและสามารถใส่ได้หลายโอกาสทั้งงานที่เป็นทางการ กึ่งทางการ และการเจรจาธุรกิจ มีลักษณะไม่ฟิตจนเกินไป และไม่เน้นจนเห็นสัดส่วนชัดเจน ข้อสังเกตคือไม่มี Shoulder Pad และมีรอยผ่าหลังแค่รอยเดียว ที่ปลายแขนและชายเสื้อมีกระดุม 3 เม็ด ส่วนกางเกงไม่มีการแต่งจีบ

 

สูทแบบอังกฤษ

สูทแบบอังกฤษเป็นสูทแบบคลาสสิกที่คุ้นเคยกันมายาวนานในวงการผู้ดีอังกฤษ มีองค์ประกอบคือเสื้อเชิ้ตและแจ็กเก็ตสูทและกางเกงขายาว จุดเด่นคือมี Shoulder Pad ต่างจากสูทแบบอเมริกัน และมีรอยผ่าทั้งซ้ายและขวาที่ด้านหลังป้องกันสูทยับ กางเกงเน้นแบบเอวสูงและมีการแต่งจีบ

 

สูทแบบอิตาเลียน

สูทแบบอิตาลีเป็นสูทที่มีลักษณะหลากหลาย ไม่เน้นความเป็นทางการมากนัก มีลูกเล่นในการออกแบบที่หลากหลายทั้งรูปแบบการตัดเย็บ สีสัน และลวดลาย จุดเด่นคือมี Shoulder Pad ที่หนากว่าแบบอื่น และเน้นสัดส่วนแบบเข้าทรง ไม่มีรอยผ่าด้านหลัง แทนที่ด้วยปลายโค้งรูปตัววี (V) กระดุมเป็นแบบสองเม็ดเรียงเดี่ยว กางเกงเป็นทรงกระบอกเล็กเข้ารูปความยาวพอดีกับขาของผู้สวมใส่

 

เลือกเสื้อแจ็กเกต หรือเสื้อโค้ด สไตล์คลาสสิก

 

4. เลือกเสื้อแจ็กเกต หรือเสื้อโค้ด สไตล์คลาสสิก

 

เสื้อแจ็กเกตหรือเสื้อโค้ดเป็นสไตล์การแต่งตัวสุภาพผู้ชาย ที่ทันสมัยและมีความหลากหลายในการใช้งาน สามารถสร้างความเป็นกันเองได้ง่าย ใส่ในโอกาสทางธุรกิจ หรืองานสำคัญที่ต้องการความเป็นกันเอง สีสันที่นิยมเลือกใส่เสื้อแจ็กเกตคือสีดำ น้ำตาล หรือกรม เพื่อให้มีความคลาสสิกมักจะหลีกเลี่ยงสีสันที่ฉูดฉาดเกินไป

เสื้อโค้ดเป็นเสื้อผ้าที่มีลักษณะคล้ายกับเสื้อแจ็กเกต แต่มักมีลักษณะที่เปิดปกคอเล็กน้อย สามารถใส่ในโอกาสที่เน้นความเป็นกันเอง สีสันที่เหมาะสมสำหรับเสื้อโค้ดคือสีดำ น้ำตาล หรือกรม ที่ให้ความคลาสสิกและดูเรียบหรูสง่างาม

 

ควรมีเสื้อเชิ้ตในตู้เสื้อผ้าของคุณเสมอ

 

5. ควรมีเสื้อเชิ้ตในตู้เสื้อผ้าของคุณเสมอ

 

เสื้อเชิ้ตเป็นเสื้อที่ควรมีในตู้เสื้อผ้าของผู้ชายเสมอ เพราะเป็นเสื้อผ้าที่ทันสมัยและสามารถใส่ประกอบการแต่งตัวหลายๆ โอกาสได้โดยยังดูสุภาพอยู่ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายในการออกแบบ เช่น เสื้อเชิ้ตทรงหลวม ทรงพอดีตัว ทรงมาตรฐาน และทรงรัดรูป ขึ้นอยู่กับโอกาสและสไตล์ของผู้ชายแต่ละคนในการเลือกเสื้อเชิ้ตที่เหมาะสมกับตัวเอง

 

เสื้อเชิ้ตทรงหลวม

เสื้อเชิ้ตทรงหลวมหรือทรงโอเวอร์ไซส์เน้นให้มีรูปทรงใหญ่ สัดส่วนของช่วงอกและแขนใหญ่ ลำตัวหลวมโคร่ง มีเอกลักษณ์คือสไตล์ที่ให้ความสำคัญกับความสบายและความคล่องตัว ทำให้ไม่ว่ารูปร่างจะเป็นแบบไหนก็สามารถใส่ได้ สามารถใส่เพื่อเสริมลุคแต่งตัวของผู้ชายให้ดูสุภาพ หรือในช่วงที่ต้องการความสบายก็ได้

 

เสื้อเชิ้ตทรงพอดีตัว

เสื้อเชิ้ตทรงพอดีตัวมีรูปทรงที่เข้ารูปแต่ไม่แน่นจนอัดอั้น มีเอกลักษณ์คือลุคที่ดูเนี้ยบและสุภาพ แต่ไม่ต้องสลัดความสบาย สามารถสวมใส่ในโอกาสที่ต้องการลุคที่ดูดีและเป็นกันเอง

 

เสื้อเชิ้ตทรงมาตรฐาน

เสื้อเชิ้ตทรงมาตรฐานมีลักษณะที่รูปทรงเน้นความสบาย ไม่ฟิตเข้ารูปจนเกินไป สามารถสวมใส่ได้ในหลายๆ โอกาสและเหมาะกับทุกรูปร่าง

 

เสื้อเชิ้ตทรงรัดรูป

เสื้อเชิ้ตทรงฟิตรัดรูปมีลักษณะที่รัดฟิตเน้นโชว์รูปร่าง เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการเน้นทรงของรูปร่างตัวเองให้เห็นชัด สามารถสวมใส่ได้โดยไม่เสียลุคสุภาพและทำให้รูปร่างดูโดดเด่นขึ้นอีกด้วย

 

เลือกชุดชั้นในให้มีความเรียบง่าย สวมใส่สบาย

 

6. เลือกชุดชั้นในให้มีความเรียบง่าย สวมใส่สบาย

 

การเลือกชุดชั้นในที่สวมใส่สบายสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับการแต่งตัวของผู้ชายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการแต่งตัวสุภาพหรืองานที่ต้องการความเรียบร้อย ชุดชั้นในที่ไม่มีลวดลายหรือแสดงออกถึงตัวตนเกินไปจะช่วยให้ลุคดูเรียบง่ายและหรูหราอย่างลงตัว เน้นความสะดวกสบายและไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไปเพื่อให้สามารถใส่ได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด
ในการเลือกชุดชั้นในที่มีความเรียบง่ายและสวมใส่สบายสำหรับผู้ชายควรพิจารณาดูรายละเอียดของแต่ละประเภทของกางเกงชั้นใน ดังนี้

 

กางเกงในทรง Briefs

กางเกงชั้นในทรงบริ๊ฟส์เป็นกางเกงชั้นในที่มีความเรียบง่ายและเป็นที่นิยมสำหรับผู้ชาย มีช่วงขาเว้าสูงทำให้โอบรับสรีระรอบตัวได้ดี และมีความมั่นคงสูง ทำให้ไม่แสดงร่องก้นหรือหลุดไปในช่วงขาหนีบของกางเกงตัวนอก การเลือกควรเลือกใส่กางเกงที่ผ้านุ่มสบาย และเหมาะกับกางเกงตัวนอก เช่น กางเกงยีนส์ หรือกางเกงขาสั้น เป็นต้น

 

กางเกงในทรง Trunks

กางเกงชั้นในทรงทรั้งคส์เป็นกางเกงชั้นในที่เข้ารูปรับกับสรีระแบบฟิตพอดีตัว มีช่วงขาที่ยาวกว่ากางเกงชั้นในทรงบริ๊ฟส์เล็กน้อย ทำให้แนบชิดสนิทกับสรีระของผู้ชาย และสวมใส่สบาย ช่วงขาเว้าสูงช่วยให้การเคลื่อนไหวทำได้สะดวก มีหลายแบบให้เลือก เช่น แบบที่ผลิตจากเนื้อผ้านุ่มสบาย หรืออาจจะใช้ผ้าที่กระชับ นุ่มลื่น และระบายอากาศได้ดี ให้ความโล่งสบายและคล่องแคล่วในทุกการเคลื่อนไหว

 

กางเกงในทรง Boxer Trunks

กางเกงชั้นในทรงบ๊อกเซอร์เป็นกางเกงชั้นในที่มีความยาวของขากางเกงที่ยาวกว่ากางเกงชั้นในทรงทรั้งคส์ เป็นกางเกงชั้นในที่ให้ความกระชับ และเข้ารูปแบบพอดีตัว สวมสบาย ไม่เหม็นอับ และไม่หุ้มน้ำ มีช่วงขาที่หุ้มลงถึงครึ่งต้นขาทำให้ลดการเสียดสีเวลาเดินได้มากขึ้น ให้ความโล่งสบายและสามารถใส่ได้ทั้งวันโดยไม่แน่นหรือหลุด นอกจากนี้กางเกงชั้นในประเภทนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ชายที่ออกกำลังกายเนื่องจากสามารถระบายอากาศได้ดี

 

กางเกงในทรง Boxer 

กางเกงชั้นในทรงบ๊อกเซอร์สมักมีความยาวของขาที่ยาวกว่ากางเกงชั้นในทรงทรั้งคส์ เป็นกางเกงชั้นในที่สวมใส่ได้โปร่งโล่งสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด อย่างไรก็ตาม การเลือกกางเกงชั้นในประเภทนี้ก็ควรเลือกกางเกงที่มีเนื้อผ้านุ่มเพื่อให้ความสบายและสามารถระบายอากาศได้ดี กางเกงชั้นในประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการความสะดวกสบายและชื่นชอบสไตล์ที่คล้ายกับกางเกงขาสั้น

 

เลือกกางเกงให้เหมาะสมกับรูปร่าง

 

7. เลือกกางเกงให้เหมาะสมกับรูปร่าง

 

การเลือกกางเกงที่เหมาะสมกับรูปร่างเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเสริมความเป็นตัวเองและสร้างความมั่นใจในการแต่งตัวของผู้ชาย ทำให้มีบุคลิกที่ดีได้ โดยทรงกางเกงที่นิยมมีดังนี้

 

ทรง Slim Fit

กางเกงทรง Slim Fit เป็นกางเกงที่มีความคล่องตัวและกระชับพอดีตัว มักมีลักษณะที่แนบชิดตัว เสริมความดูดีให้กับสไตล์การแต่งตัวของผู้ชาย โดยกางเกงทรง Slim Fit มักจะเหมาะกับผู้ชายที่มีรูปร่างเพรียวและผอมบาง เพราะถ้าหากมีรูปร่างใหญ่อาจทำให้เกิดความอึดอัดได้

 

ทรง Regular Fit

กางเกงทรง Regular Fit เป็นกางเกงที่มีลักษณะรูปทรงสมดุลและเหมาะสำหรับผู้ชายที่มีรูปร่างหรือน้ำหนักปานกลาง กางเกงทรงนี้มีขากางเกงที่ไม่แนบชิดเกินไป และไม่ส่งเสริมความใหญ่ให้กับส่วนต่างๆ ของรูปร่าง ทำให้เหมาะกับผู้ชายที่ไม่ต้องกังวลกับเสื้อผ้ามาก

 

ทรง Loose Fit

กางเกงทรง Loose Fit เป็นกางเกงที่มีลักษณะพอดีตัวและโปร่งโล่งสบาย มักมีขากางเกงที่กว้าง ทำให้สามารถสวมใส่ได้โดยไม่ควบคุมรูปร่างเยอะนัก กางเกงทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบความสบายในการสวมใส่กางเกง

 

ลงทุนกับรองเท้าที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสม

 

8. ลงทุนกับรองเท้าที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสม

 

ควรมีรองเท้าที่เหมาะกับตัวเองอย่างน้อยหนึ่งคู่ ซึ่งควรคำนึงถึงความสวยงาม ความสบาย และคุณภาพของวัสดุที่ใช้ นอกจากนี้ จำเป็นต้องมีรองเท้าที่เหมาะกับโอกาสต่างๆ เช่น รองเท้าที่เหมาะกับการใส่ทำงาน รองเท้าสำหรับเดินทาง และรองเท้าที่เหมาะกับการใส่ในโอกาสทางสังคม

 

รองเท้าผ้าใบ

รองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าที่สะดวกสบายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย มักมีดีไซน์ที่เรียบง่ายและไม่มีความหรูหรามากนัก แต่ก็สามารถเสริมความสุภาพและความดูดีให้กับสไตล์การแต่งตัวของผู้ชายได้ มีความหลากหลายทั้งแบบ สี และวัสดุที่ใช้ เหมาะกับการใส่ในโอกาสทั่วไป เช่น การเดินทาง ใส่ไปเที่ยว เป็นต้น

 

รองเท้าหนัง

รองเท้าหนังเป็นรองเท้าที่มีความหรูหราและดูดีมากกว่ารองเท้าผ้าใบ ถูกผลิตจากวัสดุหนังคุณภาพดีที่ทนทานและแสดงความหรูหราให้กับผู้สวมใส่ มีหลากหลายสไตล์และดีไซน์ให้เลือกหากต้องการรองเท้าที่ดูเก๋และดูน่าเชื่อถือในโอกาสที่ต้องการแต่งตัวที่มีความสุภาพของผู้ชายเป็นสำคัญ

 

ลงทุนกับนาฬิกาที่ชอบ และใส่ได้ทุกโอกาส

 

9. ลงทุนกับนาฬิกาที่ชอบ และใส่ได้ทุกโอกาส

 

นาฬิกาข้อมือเป็นเครื่องประดับที่เพิ่มสีสันให้กับการแต่งตัวได้ดี เนื่องจากมีความทันสมัยและเรียบหรู ทำให้ดูมั่นใจและเป็นมืออาชีพในทุกโอกาส จึงควรมีนาฬิกาข้อมือที่เหมาะกับตัวเองอย่างน้อยหนึ่งเรือน เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์และบุคลิก อาจเลือกนาฬิกาที่มีดีไซน์ที่ชอบและเข้ากันกับสไตล์การแต่งตัว โดยเฉพาะสีของนาฬิกาควรเข้ากับผิวของผู้ใช้ด้วย หากยังไม่มั่นใจว่าสีไหนเข้ากับตัวเองให้ลองใช้สีที่เป็นกลางก็ได้ เช่น สีเทา สีเงิน สีดำ สีน้ำตาล เป็นต้น ทั้งนี้ ควรเลือกนาฬิกาที่มีฟังก์ชันที่ต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาสปอร์ต นาฬิกาที่ใช้ในการทำงาน หรือนาฬิกาที่ใช้ในงานสำคัญ

 

ลงทุนกับรองเท้าที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสม

 

10. ลดสีสันให้น้อยลง หรือเลือกโทนสีกลางๆ

 

สีสันมีความสำคัญอย่างมากในการแต่งตัวสุภาพของผู้ชาย การเลือกใช้สีสันที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างบุคลิกได้อย่างเหมาะสม โดยผู้ชายควรรู้จักโทนสีที่เหมาะกับตัวเอง การลดสีสันให้น้อยลงหรือเลือกโทนสีกลางๆ จะช่วยให้ง่ายต่อการเลือกใช้เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ในการแต่งตัวออกงานของผู้ชาย ให้ดูสุภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น

 

ดูแลรูปร่าง หน้าตา และทรงผมให้ดูดีเสมอ

 

11. ดูแลรูปร่าง หน้าตา และทรงผมให้ดูดีเสมอ

 

รูปร่าง หน้าตา และทรงผมเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ที่คนอื่นๆ มองเห็นเข้ามาเป็นอย่างแรก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำให้ดูดี และเข้ากับลุคแต่งตัวผู้ชายสุภาพด้วย โดยสิ่งที่ต้องคอยดูแลมีดังนี้

 

 

สรุป

 

การแต่งตัวผู้ชายให้สุภาพและเข้ากับสถานการณ์อย่างมั่นใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อภาพลักษณ์และความประทับใจของผู้คนรอบข้าง การดูแลรูปร่างที่ดีและทรงผมที่เหมาะสมช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการแสดงออก การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่างและสไตล์การแต่งตัวช่วยให้ดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้น เครื่องประดับต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น การใส่นาฬิกาข้อมือที่สวยงามและเหมาะสมกับโอกาสจะช่วยให้การแต่งกายดูเรียบหรูและโดดเด่น เทคนิคเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ใครๆ ก็สามารถไปปรับใช้กันได้ เพื่อให้มีสไตล์การแต่งตัวผู้ชายอันสุภาพและน่าประทับใจ

Back