วิธีการจับคู่เครื่องประดับกับเสื้อผ้า ให้ดูโดดเด่น เมื่อออกงาน



วิธีการจับคู่เครื่องประดับกับเสื้อผ้าให้ดูโดดเด่นเมื่อออกงาน

 

เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกงานในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานสังสรรค์ งานมงคล งานปาร์ตี้ งานเลี้ยงกลางคืน งานสัมมนาของทางบริษัท และงานอื่นๆ อีกมากมาย การสวมใส่เครื่องประดับชิ้นส่วนชิ้นหนึ่ง จะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับเสื้อผ้าที่คุณใส่ได้ ซึ่งถ้าหากจับคู่ให้เข้ากันได้ดีก็จะสามารถเสริมบุคลิกให้มีเสน่ห์ เพื่อที่คุณจะได้ดูโดดเด่นขึ้นมาเมื่ออยู่ในงาน ดังนั้นการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดจึงมีความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับเสื้อผ้าแล้ว ยังเป็นสิ่งที่กำหนดภาพลักษณ์ของเราด้วย 

 

ซึ่งบทความนี้ จะกล่าวถึงเรื่องของการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับเสื้อผ้าว่าต้องจากอะไรบ้าง? เครื่องประดับชิ้นไหนเข้ากับเสื้อผ้าแบบไหน? เพื่อให้คุณดูเฉิดฉายมากขึ้น เดินเข้างานมีแต่คนมอง ให้ดูสวย ดูแพงสุดๆ 

 

เครื่องประดับ มีอะไรบ้าง เลือกใช้อย่างไร ?

 

เครื่องประดับ มีอะไรบ้าง เลือกใช้อย่างไร ? 

 

เครื่องประดับไม่ได้มีเพียงแค่ สร้อย หรือต่างหูเพียงเท่านั้น แต่เครื่องประดับมีอยู่หลากหลายรูปแบบ โดยหากจะให้แบ่งประเภทแล้วล่ะก็ จะมีทั้งหมด 5 ประเภท ซึ่งมีตั้งแต่ส่วนศีรษะจรดปลายเท้า เครื่องประดับเหล่านี้สามารถบ่งบอกสไตล์ของเราได้อีกด้วย

 

เครื่องประดับศีรษะ

 

เครื่องประดับศีรษะเป็นวิธีที่แสนง่ายในการอวดสไตล์ของคุณ แค่การเลือกเครื่องประดับศีรษะให้ถูกนั้นก็สามารถบอกสไตล์ของเราได้แล้ว เช่น ยางรัดผม คุณอาจจะเปลี่ยนจากยางรัดผมธรรมดาให้เป็นยางรัดผมเนื้อไหมมีกลิตเตอร์เล็กน้อย หรือเป็นขนนุ่มๆ ก็ดูมีสไตล์ขึ้นมาได้ โดดเด่นเมื่อเดินเข้ามาในงาน หรือจะเป็นที่คาดผมที่ช่วยเพิ่มความหวานให้กับลุคของคุณ และยังมีสร้อยมุกประดับหัว ปิ่นปักผม กิ๊บติดผมที่ให้ลุคดูเรียบร้อย หรือมงกุฎเองก็ถือว่าเป็นเครื่องประดับศีรษะที่ดูหรูที่แพงอีกอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน

 

เครื่องประดับชิ้นเล็ก

 

เครื่องประดับชิ้นเล็กมักเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ในการออกงาน แม้จะมีขนาดที่เล็ก แต่หากนำมาจับคู่กับเสื้อผ้าให้เหมาะสมกัน การเลือกเครื่องประดับให้แมทช์กับการแต่งตัวก็สามารถเพิ่มเสน่ห์ขึ้นมาได้ ซึ่งเครื่องประดับชิ้นเล็กจะเป็นจำพวก สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ต่างหู เข็มกลัด หรือแหวน นอกจากนี้นาฬิกาก็ถือว่าเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กด้วยเหมือนกัน ซึ่งการใส่นาฬิกาหรูมีระดับ ดีไซน์สวยงามไปออกงาน จะช่วยให้ลุคของคุณดูโดดเด่นขึ้นมาก หรือหากว่าคุณยังมือใหม่ในการเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็ก อาจจะเริ่มต้นด้วยกระดุมเพชรเม็ดเล็กๆ ต่างหูแบบห่วงบางๆ หรือสร้อยคอห้อยจี้ที่มีความละเอียดในการออกแบบ ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่คลาสสิคที่ใส่แมทช์ได้เกือบทุกชุด

 

กระเป๋าถือ

 

​​กระเป๋าถือก็รวมอยู่ในเครื่องประดับที่เอาไว้ออกงานเช่นกัน ซึ่งกระเป๋าถือก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันมากมาย ในแต่ละรูปแบบก็จะเหมาะกับงานในแต่ละโอกาส ซึ่งก็ควรเลือกกระเป๋าถือให้เหมาะสมกับแต่ละงาน การเลือกกระเป๋าให้ดีก็เหมือนการเลือกเครื่องประดับที่ดีเพื่อมาช่วยเสริมระดับของเราขึ้นไปอีก ซึ่งกระเป๋าถือก็มีหลายแบบให้เลือกมากมาย ดังนี้

 

 

เข็มขัด

 

เข็มขัดก็เป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่มีความแฟชั่นสูง เพราะฉะนั้นการเลือกใส่เข็มขัดก็เป็นการปรับแต่งลุค ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณได้เป็นอย่างดี โดยลักษณะของเข็มขัดมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบแคบ แบบกว้าง แบบเรียบๆ หรือแบบที่มีการตกแต่งลวดลาย ติดเพชรต่างๆ แถมเข็มขัดนั้นนอกจากจะเป็นเครื่องประดับไว้สำหรับให้ชุดโดดเด่นแล้ว ยังเป็นตัวกำหนดรอบเอวให้คุณได้ สามารถพรางหุ่นได้ และเข็มขัดก็มีชื่อเรียกตามลักษณะ  แต่ละแบบก็จะให้ลุคที่แตกต่างกัน ดังนี้

 

 

รองเท้า

 

รองเท้าจัดว่าเป็นเครื่องประดับที่จำเป็นต้องใส่ใจทุกๆ วันอยู่แล้ว ซึ่งหากเลือกรองเท้าที่มีความโดดเด่น ดูดี ก็จะช่วยเสริมลุคของคุณ เพิ่มเสน่ห์ให้น่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิมได้ เช่น รองเท้าส้นสูงแบบสีดำดูทางการ รองเท้าบูตสีดำ หรือน้ำตาล เป็นต้น การใส่รองเท้าจะช่วยยกระดับลุคของคุณให้ดูดีขึ้น แต่ก็ควรเลือกที่สวมใส่ได้สบาย เพราะไม่งั้นคุณอาจจะไม่อยากหยิบมาใส่อีกเลยก็ได้

นอกจากนี้ยังมีรองเท้าทรงอื่นๆ ที่ใส่ออกมาได้หลายลุค เช่น

 

 

จิตวิทยาของการแต่งกายคู่กับเครื่องประดับ

 

จิตวิทยาของการแต่งกายคู่กับเครื่องประดับ

 

ก่อนที่เราจะรู้วิธีเลือกเครื่องประดับ เราต้องมาทำความเข้าใจจิตวิทยาในการแต่งตัวก่อน ซึ่งในทางจิตวิทยาการแต่งตัวนั้นก็มีหลากหลาย แต่อย่างน้อยก็ต้องทำความเข้าใจ 3 สิ่งนี้ให้ขึ้นใจ เพื่อเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มความน่าเข้าหา 

 

​​กาลเทศะ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

 

ในแต่ละโอกาสที่ได้ไปออกงาน เราจะต้องรู้ว่าเราแต่งตัวไปทำอะไร ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง และเราไปในฐานะอะไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่บอกตัวเราเองว่า ควรแต่งตัวแบบไหน เช่น หากไปงานแต่งของเพื่อน ซึ่งอาจต้องมีการเตรียมเครื่องสำอางไปเพื่อเติมระหว่างวัน เตรียมเงินใส่ซอง หรือโทรศัพท์มือถือ จะพกไปอย่างไร จุดนี้เองที่เราต้องมาดูจากจิตวิทยาตรงนี้

 

หากไปในฐานะแขก ไม่จำเป็นต้องเด่นจนเกินไป อาจจะลดพวกกลิตเตอร์ หรือเครื่องเพชรที่เล่นแสงระยิบระยับ ปกติแขกส่วนมากจะเน้นเครื่องเพชรชิ้นไม่ใหญ่มากนัก หรือมุกที่ไม่เล่นแสง ซิลูเอท(Silhouette) และจะต้องไม่แย่งซีนแข่งกับชุดของเจ้าสาวในงานแต่ง ในมุมของสุภาพบุรุษ ควรเลือกธีมสีที่ดูสบายตา เช่น เอิร์ธโทน หรือการใส่รองเท้าผ้าใบเก่าๆ นำมาแมทช์ให้เข้ากับลุคได้เช่นกัน

 

เพราะฉะนั้นหากมีงานแต่งเพื่อนหรือคนรู้จัก การแต่งตัวที่ออกมาจะอยู่ในคอนเซ็ปต์ เน้นมุกไม่เล่นแสง กระเป๋าใบเล็ก ดูแลง่าย พกพาสะดวกและเข้ากับเดรสที่ใส่ ธีมสีสบายตา เน้นให้เกียรติเจ้าของงานเป็นหลัก ให้ความรู้สึกสุภาพ และเป็นกันเอง

 

เน้นจุดเด่นของร่างกาย

 

เข้าใจร่างกายของตนเอง และต้องรู้ว่าจะเล่าหรือสิ่งที่อยากจะสื่อคืออะไร? ซึ่งร่างกายเราสามารถเล่าเรื่องราวได้ผ่านการสวมใส่เครื่องประดับและชุด ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องประดับที่เน้นไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ถูก 

 

 

เครื่องประดับที่เหมาะสมกับงาน

 

เครื่องประดับแต่ละอย่างนั้นมีความหมายในตัว หากไปออกงานในโอกาสต่างๆ ควรรู้ความหมายของเครื่องประดับหรือรู้วาระว่างานนี้ควรใส่เครื่องประดับแบบไหน เช่น ดินเนอร์งานกาล่า งานพรอม งานเลี้ยง เป็นต้น หากใส่เครื่องประดับให้เหมาะสมในแต่ละวาระ จะบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของคุณ และภาพลักษณ์ได้เช่นกัน

 

ยกตัวอย่างเช่น เครื่องประดับที่ดูโมเดิร์นที่เสริมความระยิบระยับด้วยเพชรหรือพลอย จะเหมาะสำหรับไปงานปาร์ตี้งานเลี้ยงตอนกลางคืน เพราะงานปาร์ตี้กลางคืน คุณจะสามารถจัดเต็มได้อย่างเต็มที่ หากไม่เพิ่มความระยิบระยับความมืดในตอนกลางคืนอาจทำให้คุณกลืนไปกับผู้คนในงานได้

 

หากเป็นงานพรอม งานกาล่า การเลือกเครื่องประดับเพียงหนึ่งชิ้นจะช่วยขับส่วนที่สวยที่สุดของคุณให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เครื่องประดับเป็นสิ่งที่มาเสริมลุคโดยรวมให้คุณ การใส่เครื่องประดับมากไป อาจเบี่ยงเบนความสนใจจากลุคโดยรวมไปเด่นแค่ที่เครื่องประดับอย่างเดียวแทนได้

 

สรุป 3 ทฤษฎีจิตวิทยานี้ได้ว่า

 

  1. แต่งตัว และเลือกเครื่องประดับให้ถูกกาลเทศะ รู้ว่าไปทำอะไร ไปฐานะอะไร ต้องเตรียมอะไรไป และที่สำคัญต้องให้เกียรติเจ้าภาพเสมอ

  2. เรียนรู้และทำความเข้าใจร่างกายตนเอง เลือกเครื่องประดับให้ตรงกับส่วนที่เราต้องการสื่อออกไป

  3. เลือกเครื่องประดับให้เหมาะสมกับงานที่ไป เรียนรู้การเลือกเครื่องประดับที่เหมาะสมกับชุด ไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป ให้เหมาะสมกับวาระโอกาสนั้นๆ 

 

ทฤษฎีในการจับคู่เครื่องประดับกับเสื้อผ้า

 

ทฤษฎีในการจับคู่เครื่องประดับกับเสื้อผ้า

 

การจับคู่เครื่องประดับกับเสื้อผ้าจะง่ายขึ้น หากรู้ทั้ง 5 ทฤษฎีนี้ เป็นทฤษฎีที่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่น เพิ่มเสน่ห์ให้แก่ตัวคุณ เดินเฉิดฉายในงานที่มีแต่จับจ้อง จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

 

1. การจับคู่ด้วยสี 

 

​​โดยจะแบ่งเป็นการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุด แบบเฉดสีเดียวกัน และเฉดสีที่เสริมกัน ยกตัวอย่างการจับคู่สีแบบเฉดสีเดียวกัน เช่น เครื่องประดับสีทองหรือเหลือง ใส่คู่กับชุดที่เป็นสีเหลืองอ่อนๆ จะมีความสมดุล ทำให้ดูสะอาดตาและเข้ากันได้ดี ซึ่งบางทีเราอาจไม่จำเป็นต้องจับคู่สีเฉดเดียวกันเสมอไป ให้ลองผสมสีที่เสริมกัน อย่างเช่น ต่างหูห่วงสีทอง คู่กับชุดเดรสสีดำ เครื่องประดับจะดูโดดเด่นขึ้นมา หรือจะใส่คู่กับชุดสีขาว เป็นลุคที่ดูสมบูรณ์แบบไปหมด

 

2. การจับคู่ด้วยวัสดุ 

 

การมิกซ์เครื่องประดับนั้นก็มีผลต่อลุคที่จะออกมาเมื่อจับคู่กับเสื้อผ้า เพราะมันจะเป็นการเพิ่มสีสันให้กับเสื้อผ้า โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มให้กับเครื่องประดับใหม่และทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาได้ หากเลือกเครื่องประดับให้เหมาะสมกัน ยกตัวอย่างเช่น สร้อยทองคำ และต่างหูโลหะสีทองโรสโกลด์ เป็นต้น ซึ่งในการเลือกวัสดุเครื่องประดับมามิกซ์กันนั้น จะต้องดูเรื่องความสัมพันธ์ของวัสดุด้วย เช่น ให้ผสมโลหะชนิดเดียวกัน เช่น นาฬิกาสีเงิน กับกำไลหรือแหวนสีเงิน หรือเครื่องประดับเงินและทองสามารถจับคู่กันได้ ไม่จำเป็นต้องใส่แค่เงิน หรือทองอย่างใดอย่างหนึ่งเพียวๆ 

 

นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ของวัสดุแล้ว ควรโฟกัสที่ราคาของเครื่องประดับด้วย ไม่ควรใส่วัสดุที่มีมูลค่าห่างกันมากไป เช่น ใส่เครื่องประดับวัสดุสเตนเลส กับวัสดุทองในที่เดียวกัน นั่นอาจทำให้ดึงระดับลุคของคุณลงมาได้

 

3. เลือกนำเสนอเฉพาะจุดด้วยรูปทรง และขนาด

 

​​ขนาดของเครื่องประดับและรูปทรงก็มีผลต่อการจับคู่กับเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อคุณสวมเครื่องประดับที่ดูเยอะจนเกินไป อาจทำให้ดูไม่มีรสนิยมที่ดีเท่าไหร่นัก เช่นเดียวกับหากใส่ชุดที่มีลายเยอะ การเลือกเครื่องประดับที่เรียบๆ จะช่วยเสริมให้กับลุคของคุณ หากคุณมีร่างกายที่ใหญ่ การใส่เครื่องประดับชิ้นเล็กจะยิ่งทำให้เน้นร่างกายให้ใหญ่ขึ้นไปอีก ให้เลือกชิ้นปานกลาง และไม่ใหญ่จนเกินไป

 

4. เลือกเครื่องประดับให้ตรงกับสไตล์ของชุด

 

ชุดหรือเสื้อผ้าแต่ละแบบ จะมียุคที่รุ่งเรืองในตนเอง เช่น เดรส สูท หรือทักซิโด้ การเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุด และเข้ากับยุคนั้น จะช่วยขับขานเรื่องราวของมันออกมาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ให้คำนึงถึงเรื่อง Nostalgia หรือความรู้สึกโหยหา และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเรื่องราวต่างๆ ซึ่งนี่จะเป็นอีกสิ่งที่ทำให้คุณโดดเด่น และเป็นที่จับจ้องด้วยสายตาจากคนในงาน และจะทำให้คนมองคุณได้แบบไม่มีเบื่อ

 

5. รู้จักอารมณ์ และตัวตนของเครื่องประดับ

 

อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เครื่องประดับนั้นหากนำมาจับคู่กับชุดของคุณให้ดี นั่นจะสามารถกำหนดสไตล์ของคุณได้ หากคุณสวมเชิ้ตขาวกับกางเกงยีน การเลือกเครื่องประดับจะทำให้การแต่งตัวนี้ดูแตกต่างจากเดิม โดยจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาเลือกเครื่องประดับจากสไตล์ของตัวเรา เช่น

 

 

ถ้าชุดมีลาย ชุดลายเยอะเลือกเครื่องประดับแบบไหนดี?

 

ถ้าชุดมีลาย ชุดลายเยอะเลือกเครื่องประดับแบบไหนดี? 

 

หากชุดที่ใช้ออกงานมีลายค่อนข้างเยอะ เครื่องประดับที่ควรนำมาจับคู่ ควรเป็นเครื่องประดับที่ช่วยเสริมชุดให้เด่นขึ้นต้องไม่ทับไลน์กัน และต้องไม่ดูล้นจนเกินไป ยังคงความสวยของลายที่อยู่กับชุด และเครื่องประดับไม่ถูกลายของชุดบดบัง เช่น หากใส่ชุดที่มีลายดอกหรือลาย geometric ให้เลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ เช่น กำไลข้อมือเพชร หรือต่างหูเพชรแบบหมุด เท่านี้ก็เพียงพอทำให้ลุคของคุณดูมีเสน่ห์มากกว่าใคร

 

สรุป

 

การเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณดูเฉิดฉายมากที่สุดเมื่อไปออกงาน วิธีการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดนั้นก็มีหลายวิธี ตามแต่ละสไตล์ของแต่ละคน โดยในแต่ละวิธีจะช่วยเสริมให้คุณแต่งตัวคู่กับเครื่องประดับได้ดีมากยิ่งขึ้น แม้จะมีรายละเอียดยิบย่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ใส่ใจในแต่ละวิธีให้ดี เพราะการเลือกเครื่องประดับไม่ใช่แค่การทำให้คุณดูดีขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้ผู้คนหันมาสนใจในตัวคุณทุกครั้งที่ออกงานได้ด้วย 

Back